1631101 ความรู้เบื้องต้นทางบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์
Introduction to Library and Information Science
2 (2 - 0)
บรรณานุกรมและการควบคุมบรรณานุกรม
ห้องสมุดและศูนย์สารนิเทศเป็นแหล่งอารยธรรมที่สำคัญ เพราะเป็นสถานที่ที่รวบรวมบันทึกและถ่ายทอดสารนิเทศ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หากไม่มีวิธีการควบคุมบรรณานุกรม
ผู้ใช้สารนิเทศจะประสบปัญหากับสารนิเทศที่มีอยู่อย่างมหาศาล
การจัดทำบรรณานุกรมจะเป็นวิธีการควบคุมสารนิเทศที่มีอยู่มากมายมหาศาล และ กระจัดกระจายไปในที่ต่างๆได้
เพราะการจัดทำบรรณานุกรมจะเป็นการรวบรวมรายการของสื่อสารนิเทศโดยจัดเรียงลำดับอย่างมีแบบแผน บรรณานุกรมที่จัดทำเพื่อใช้ประโยชน์ในการสืบค้นสารนิเทศ ได้แก่
บรรณานุกรมสากล บรรณานุกรมแห่งชาติ บรรณานุกรมเฉพาะ วิชา บรรณานุกรมเลือกสรร และบรรณานุกรมของบรรณานุกรม
การควบคุมบรรณานุกรม เป็นพัฒนาการของระบบการบันทึกของสารนิเทศในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ หรือสื่อไม่ตีพิมพ์ ซึ่งช่วยอำนวยต่อการใช้ประโยชน์ในความรู้
และการใช้สารนิเทศของมนุษย์ (Davinson 1981 : 7)
มีแนวความคิดในการจัดทำบรรณานุกรมสากลมานานแล้ว โดยเริ่มต้นจาก คอนราด เกสเนอร์ (Conrad Gesner ; 1516-1565) ได้เริ่มจัดทำบรรณานุกรมสากล (Bibliotheca
universalis) เมื่อปี ค.ศ. 1545-1555 แต่สภาพการใช้บริการยังไม่เป็นสากล แต่ก็นับว่าเป็นหนังสือบรรณานุกรมเล่มแรก ซึ่งมีรายชื่อหนังสือกว่า 15,000 ชื่อเรื่อง
นับว่าเป็นผลงานที่น่าอัศจรรย์ (Davinson 1981 : 15) และเป็นจุดเริ่มต้นในการผลักดันให้มีการจัดทำหนังสือบรรณานุกรมเพื่อการควบคุมสารนิเทศต่อมา
จากจุดเริ่มต้นของการประชุมเกี่ยวกับการควบคุมบรรณานุกรมระดับนานาชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2493 ซึ่งจัดที่กรุงปารีส โดยองค์การยูเนสโก
ได้สรุปถึงบรรดาเอกสารข้อมูลว่ามีความจำเป็นต่อการควบคุมบรรณานุกรม (Davinson 1981 : 12-13) ว่ามีดังต่อไปนี้
1. บรรณานุกรมของหนังสือ และจุลสารทุกชนิดที่ผลิตจำหน่ายขึ้นในแต่ละประเทศ
2. บรรณานุกรมของหนังสือและจุลสารที่ไม่ได้ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่าย
3. การจัดทำดรรชนีวารสารและดรรชนีหนังสือพิมพ์
4. บรรณานุกรมของแผนที่ และสมุดแผนที่
5. บรรณานุกรมผลงานทางดนตรี
6. รายชื่อของโสตทัศนวัสดุต่าง ๆ
7. บรรณานุกรมของวิทยานิพนธ์ และสิ่งพิมพ์มหาวิทยาลัย
8. บรรณานุกรมของสิ่งพิมพ์รัฐบาล
9. นามานุกรมของวารสาร และหนังสือพิมพ์
10. นามานุกรมของสมาคม สถาบัน ห้องสมุด และองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
จากการประชุมระหว่างประเทศ ในปี พ.ศ. 2520 ซึ่งองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมของสหประชาชาติ
ร่วมกับสหพันธ์สมาคมห้องสมุดและสถาบันระหว่างประเทศจัดขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้มีการพิจารณาสร้างระบบการควบ
คุมบรรณานุกรมระหว่างชาติ เพื่อหาวิธีการในการอำนวยความสะดวกให้แก่ห้องสมุด และ ศูนย์สารนิเทศทุกแห่งในโลก
ในการค้นหาข้อมูลบรรณานุกรมสื่อสารนิเทศได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าสื่อสารนิเทศนั้น ๆ จะผลิตขึ้น ณ ที่ใด
ระบบการควบคุมบรรณานุกรมระหว่างชาติเป็นสิ่งที่จะต้องสร้างขึ้นเพิ่มเกื้อกูลการกระจายหนังสือและ สารนิเทศอื่น ๆ ให้ทั่วถึง (คุณหญิง
แม้นมาส ชวลิต 2530 : 1-2) ในที่ประชุมได้รับรองแนวความคิด และจัดประชุมเพิ่อพิจารณาหลักการในการควบคุมบรรณานุกรม ระหว่างชาติในปี พ.ศ. 2525
และมีผลสรุปจากการประชุม พอสรุปได้ดังต่อไปนี้ (คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต 2530 : 2-27)
- 1. ให้มีการควบคุมบรรณานุกรมในระดับระหว่างประเทศกับการควบคุมบรรณานุกรมในระดับประเทศ วิธีการนี้ได้แก่
การกำหนดระบบสากลเพื่อการควบคุมและแลกเปลี่ยนข้อมูลบรรณานุกรมเพื่อจัดการให้ข้อมูลพื้นฐานบรรณานุกรม
ของสิ่งพิมพ์ทั้งหมดในโลกนี้ได้รับการกระจายออกไปอย่างกว้างขวาง และให้เรียกใช้ได้ทันทีในรูปแบบซึ่งเป็นที่รับรองกันทั่วโลก
- 2. ให้มีการจัดทำบรรณานุกรมแห่งชาติ และจัดตั้งหน่วยงานควบคุมบรรณานุกรม ในระดับประเทศ การจัดทำบรรณานุกรมแห่งชาติ
ในแต่ละชาติจะสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของความสนใจทางด้านวรรณกรรมและวัฒนธรรม ชี้ให้เห็นถึงความห้าวหน้าทางวิทยา
ศาสตร์และพัฒนาการทางเศรษฐกิจในแต่ละชาติได้ ส่วนการจัดตั้งหน่วยงานควบคุมบรรณานุกรม มีวัตถุประสงค์ เพื่อจัดทำระเบียนบรรณานุกรมสิ่งพิมพ์ทุกชิ้นของแต่ละประเทศ
และหน่วยงานที่เหมาะที่สุด ได้แก่ หอสมุดแห่งชาติแต่ละประเทศ หรือหน่วยงานที่มีชื่ออย่างอื่น แต่ะทำหน้าที่อย่างหอสมุดแห่งชาติ
- 3. ให้มีการสนับสนุนอุตสาหกรรมการพิมพ์ เพื่อผลิตสิ่งพิมพ์ในแต่ละประเทศ และ การจัดตั้งคลังสิ่งพิมพ์ที่เป็นทรัพย์สินของประเทศ
- 4. ให้ดำเนินการในแนวปฏิบัติที่จำเป็นสำหรับการจัดทำและการดำเนินงานการรวบรวมบรรณานุกรมแห่งชาติ
ทั้งนี้ในแต่ละประเทศต่างประสบปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการส่งสิ่งพิมพ์ให้แก่รัฐบาล เป็นวิธีการสำคัญที่จะสร้างคลังสิ่งพิมพ์ของประเทศ
ในบางประเทศเป็นวิธีการให้ได้สิ่งพิมพ์โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากนัก และเป็นวิธีจะให้ได้สิ่ง พิมพ์มากพอจะนำไปแลกเปลี่ยนกับต่างประเทศได้
- 5. ให้มีวิธีการเลือกสิ่งพิมพ์เพื่อลงรายการในบรรณานุกรมแห่งชาติ ทั้งนี้เป็นเพราะปริมาณการผลิตสิ่งพิมพ์มีมากมายเกิน ที่จะบรรจุลงทุกชิ้น
บางประเทศจึงได้กำหนดลงรายการเฉพาะบางประเภท
- 6. ให้มีการจัดพิมพ์บรรณานุกรมแห่งชาติเพื่อเผยแพร่ในแต่ละประเทศให้มีกำหนดออกสม่ำเสมอในระยะเวลาที่กำหนด เช่น ปีละ 4 ฉบับ เป็นต้น
โดยมีการกำหนดมาตรฐานทางบรรณาธิการกิจ และรูปเล่มเพื่อจัดทำให้เป็นแบบเดียวกัน เช่นกฎเกณฑ์
การลงรายการบรรณานุกรม ควรใช้กฎเกณฑ์ของสหพันธ์สมาคมห้องสมุด และสถาบันระหว่างประเทศได้พัฒนาขึ้นมาในชุด มาตรฐานสากลสำหรับคำอธิบายรายการบรรณานุกรม
(International Standard Bibliographic Description- ISBDS) เช่น
ISBD (M) สำหรับเอกสารพิมพ์จำนวนจำกัด ISBD (G) สำหรับคำอธิบายการลงรายการมาตรฐาน ISBD (S) สำหรับวารสาร ISBD (GM) สำหรับแผนที่ ISBD (NEM)
สำหรับวัสดุที่มิใช่สิ่งพิมพ์ เป็นต้น
แนวสรุปจากการประชุมระหว่างชาติดังกล่าว ได้รับการปฏิบัติตอบจากประเทศ ต่าง ๆ ในการจัดประชุมภายในประเทศ ดังเช่น ประเทศไทยได้ดำเนินการจัดการสัมมนาระดับชาติ เรื่อง
การกระจายสิ่งพิมพ์ให้ทั่วถึง เมื่อ พ.ศ. 2530 โดยพิจารณาถึงประ
เด็นของสารนิเทศทึงหลายว่าจะมีวิธีการทำอย่างไรจึงจะให้มีการกระจายให้ทั่วถึงภายในประเทศให้มากที่สุด
การควบคุมบรรณานุกรมในประเทศไทย
หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร เป็นหน่วยงานที่สำคัญที่สุดของประเทศในการรวบรวมสารนิเทศ โดยเฉพาะสื่อสิ่งพิมพ์ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการพิมพ์
ทำหน้าที่ในการเผยแพร่สารนิเทศจึงเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการ ควบคุมบรรณานุกรมเพื่อใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่จากสารนิเทศที่มีอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด
หอสมุดแห่งชาติเริ่มจัดทำบรรณานุกรมแห่งชาติขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อพ.ศ. 2501 คือ บรรณานุกรมแห่งชาติ พ.ศ. 2501 เมื่อจัดพิมพ์เสร็จแล้ว งานได้หยุดชะงักไป
และเริ่มต้นจัดทำใหม่ตั้งแต่พ.ศ.2508 จนกระทั่งในปัจจุบัน โดยมีขอบเขตการจัดทำบรรณานุกรมแห่งชาติ ตามแนวทางการควบคุมบรรณานุกรมระหว่างชาติได้กำหนดไว้(สุวคนธ์
ผดุงอรรถ2523:3)
สำหรับหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากรจัดทำบรรณานุกรมเฉพาะรายการของหนังสือก่อน ส่วนรายการประเภทอื่น ๆ จะดำเนินการจัดทำต่อไปภายหลัง
ในการจัดทำบรรณานุกรมแห่งชาติให้เป็นระบบสากล และเพื่อควบคุมสารนิเทศ
ให้อยู่ในระบบหอสมุดแห่งชาติได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์ข้อมูลวารสารระหว่างชาติระดับประเทศ มีหน้าที่ในการกำหนดหมายเลข มาตรฐานสากลประจำวารสาร(International Standard
Serial Number - ISSN) สำหรับวารสารทุกเล่มที่ผลิตขึ้นภายในประเทศไทย
หมายเลขมาตรฐานสากลประจำวารสารเป็นรหัสเฉพาะที่กำหนดให้แก่สิ่งพิมพ์ประเภทวารสารแต่ละราย
ชื่อมีความมุ่งหมายเพื่อใช้สำหรับการค้นข้อมูลวารสาร การแลกเปลี่ยนวารสาร (ธารา กนกมณี 2529 : 163-164)
นอกจากนี้หอสมุดแห่งชาติยังทำหน้าที่ในการกำหนดเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ (International Standard Book Number - ISBN) เพื่อเป็นเลขรหัส
สากลที่กำหนดขึ้นใช้สำหรับสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือทั่ว ๆ ไปมีความมุ่งหมายที่จะเป็นเอกลักษณ์ของ
หนังสือแต่ละเล่ม เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการดำเนินงานด้านการควบคุมข้อมูลสิ่งพิมพ์ในคอมพิวเตอร์ ในด้านการสั่งซื้อหนังสือ ด้านการแลกเปลี่ยน ด้านการสำรวจข้อมูล และ
ด้านการควบคุมจำนวนหนังสือของสำนักพิมพ์ (ธารา กนกมณี 2529 : 171)
การควบคุมบรรณานุกรมสื่อสารนิเทศต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพ มีคู่มือในการสืบค้นหาสารนิเทศ และมีวิธีการเรียกข้อมูล
โดยการเอาหรือค้นจากเครื่องคอมพิวเตอร์ย่อมทำให้ผู้ใช้สารนิเทศสามารถเข้าถึงสารนิเทศได้ทุกชนิด ในทุกประเทศได้ต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้
หน้าสารบัญ