สมชาย วงศ์สวัสดิ์
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ (31 สิงหาคม พ.ศ. 2490 — ) เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย [1][2] เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อดีตผู้พิพากษา อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาล เพราะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังคงยึดพื้นที่ไว้ตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช
เนื้อหา |
ประวัติ
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2490 ที่อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของนายเจิม-นางดับ วงศ์สวัสดิ์ สมรสกับ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีดนายกรัฐมนตรี[3] มีบุตร 3 คนคือ นายยศธนัน วงศ์สวัสดิ์ (เชน) น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ (เชียร์) และ น.ส.ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ (เชอรี่)
การศึกษา
สำเร็จการศึกษาชั้นต้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ชั้นมัธยมจากโรงเรียนอำนวยศิลป์[4] สำเร็จนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. 2513 ต่อมาปี 2516 เข้าศึกษาต่อเนติบัณฑิตไทย (นบท.) สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา เมื่อ 2539 ปริญญาบัตร หลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 38 และในปี 2545 รัฐประศาสนศาสตร์ มหาบัณฑิต หลักสูตรการจัดการภาครัฐและภาคเอกชนมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ในปี พ.ศ. 2555 ได้รับพระราชทานปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (การจัดการ) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การงาน
หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วสอบบรรจุเข้าเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษา กระทรวงยุติธรรม เมื่อ พ.ศ. 2517 ต่อมาได้เป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาประจำกระทรวง พ.ศ. 2518 ผู้พิพากษาศาลแขวงเชียงใหม่ พ.ศ. 2519 จากนั้นได้เลื่อนตำแหน่งเป้นผู้พิพากษาศาลจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2520 แล้วจึงย้ายไปเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2526 จากนั้นย้ายไปเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพังงา พ.ศ. 2529 ต่อมาได้เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลคดีเด็กและเยาวชนจังหวัดระยอง พ.ศ. 2530 ย้ายไปเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดชลบุรี พ.ศ. 2531 ย้ายไปเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนนทบุรี พ.ศ. 2532 ย้ายไปเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญาธนบุรี พ.ศ. 2533 เลื่อนตำแหน่งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 พ.ศ. 2536 ย้ายไปเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 2 พ.ศ. 2540
ต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายวิชาการ พ.ศ. 2541 หลังจากนั้นได้ย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายบริหาร พ.ศ. 2542 หลังจากนั้นได้เลื่อนตำแหน่งสูงสุดเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม 11 พ.ย. 2542 หลังจากนั้นจึงย้ายไปเป็นปลัดกระทรวงแรงงาน 8 มีนาคม 2549 และได้ลาออกจากราชการในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2550
นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติสาขานิติศาสตร์ พ.ศ. 2542- 2549
- กรรมการเนติบัณฑิตยสภา
- ประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษ
- กรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
- กรรมการบริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)
- กรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)[5]
- กรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
- กรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
- กรรมการบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
- กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
- กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)
- กรรมการคณะกรรมการกฤษฎีกา
- กรรมการคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.)
- กรรมการคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)
- กรรมการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.)
- กรรมการคณะกรรมการอัยการ (กอ.)
- กรรมการคณะกรรมการตุลาการ
- กรรมการคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารแห่งชาติ
- กรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
การดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ในปี พ.ศ. 2550 เป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และในวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551 ได้รับเลือกจากคณะรัฐมนตรีให้เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี[6]
17 กันยายน 2551 ได้รับการเลือกจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย[7] โดยผลการลงคะแนนปรากฏว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ 298 เสียง ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้ 163 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง ทำให้นายสมชาย ได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งตามรัฐธรรมนูญ จึงได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย[8][9]
การปฏิบัติงาน
- เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
ความมั่นคง
- แก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
- ส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาและสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีในภูมิภาค
- จัดตั้งสภาเกษตรกรและสร้างระบบประกันความเสี่ยง
เศรษฐกิจ
- แก้ไขปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินในประเทศ
- เร่งรัดการลงทุนที่สำคัญของประเทศ
- สร้างกลไกในการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกิดจากวิกฤติการเงินของโลกที่ส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว
สิทธิมนุษยชน
- เร่งรัดปราบปรามการค้ายาเสพติด ปราบปรามผู้มีอิทธิพล อบายมุขและสิ่งยั่วยุเยาวชน
ฉายานาม
วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 อ.ธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พร้อมทั้ง ตั้งฉายารัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ว่าเป็น รัฐบาล "ชายกระโปรง"[10]
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรค
เมื่อเวลา 12.30 น. ของวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย อันเนื่องมาจากกรณีทุจริตการเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช จากพรรคพลังประชาชน นายมณเฑียร สงฆ์ประชา จากพรรคชาติไทย และนายสุนทร วิลาวัลย์ จากพรรคมัชฌิมาธิปไตย ภายหลังนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย แถลงด้วยวาจาเสร็จสิ้นแล้ว โดยไม่รอพรรคพลังประชาชนไม่ได้ส่งตัวเข้าแถลงปิดคดีแต่อย่างใด
ต่อมา ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยในส่วนของพรรคพลังประชาชน ด้วยมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ให้ยุบพรรคพลังประชาชน และตัดสิทธิทางการเมืองหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค 5 ปี (รวม 37 คน) ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชนต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยปริยาย
จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยในส่วนของพรรคมัชฌิมาธิปไตย โดยมีมติให้ยุบพรรคมัฌชิมาฯ และตัดสิทธิทางการเมืองหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค 5 ปี (รวม 43 คน) ตามประกาศ คปค. เช่นกัน
ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 ให้ยุบพรรคชาติไทยตามไปอีกพรรค โดยศาลฯได้วินิจฉัยว่ามีความผิดตามมาตรา 237 วรรค 2 และมาตรา 68 ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ และกฎหมายได้เอาไว้เป็นเด็ดขาด แม้จะมีการโต้แย้งว่าหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคคนอื่นฟังไม่ขึ้น (รวม 29 คน) ตามประกาศ คปค.[11]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2523 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
- พ.ศ. 2527 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)
- พ.ศ. 2529 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)
- พ.ศ. 2532 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- พ.ศ. 2535 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฏ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2540 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาประมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
- พ.ศ. 2542 - เหรียญจักรพรรดิมาลา (จ.ม.ร.)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ :
อ้างอิง
- ^ พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์)
- ^ "สภาฯ เท298เสียงเลือก'สมชาย'เป็นนายกฯ", กรุงเทพธุรกิจ, 2008-09-17. สืบค้นวันที่ 2008-09-17
- ^ Ahuja, Ambika. "Cooking show stint derails Thai prime minister", Associated Press/Google, 2008-09-09. สืบค้นวันที่ 2008-09-10
- ^ วาจาสิทธิ์พ่อท่านคล้าย "สมชาย"นั่งนายกฯ สยามรัฐ 17 กันยายน 2551
- ^ tvnz.co.nz/view, FACTBOX - Somchai Wongsawat
- ^ "Thai party names nominee for PM", BBC News, 2008-09-15. สืบค้นวันที่ 2008-09-15
- ^ Somchai elected new prime minister
- ^ edition.cnn.com, Thai lawmakers elect Thaksin's in-law as PM
- ^ google.com, Thaksin's brother-in-law elected Thai PM
- ^ Sanook.com, ธีรยุทธขาประจำมาแล้ว ตั้งรัฐบาล 'ชายกระโปรง' เรียกข้อมูลวันที่ 28 พฤศจิกายน 2551
- ^ ผู้จัดการออนไลน์, ศาล รธน.มติเอกฉันท์! สั่งยุบ “พปช.” ตัดสิทธิ กก.บห.5 ปี - “ชายอำมหิต” หลุดเก้าอี้, เรียกข้อมูลวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551
แหล่งข้อมูลอื่น
- ประวัติสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จากเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลนักการเมือง - ThaisWatch.com
- สมชาย วงศ์สวัสดิ์ - ศูนย์ข้อมูลการเมืองไทย
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2490
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นายกรัฐมนตรีไทย
- บุคคลจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- บุคคลจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
- บุคคลจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
- สามัญสมาชิกเนติบัณฑิตยสภา
- ผู้พิพากษาไทย
- ข้าราชการฝ่ายตุลาการชาวไทย
- นักกฎหมายชาวไทย
- พรรคพลังประชาชน
- แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ
- นักการเมืองไทย
- บุคคลจากจังหวัดนครศรีธรรมราช
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย
- บุคคลจากโรงเรียนอำนวยศิลป์
- สกุลวงศ์สวัสดิ์
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ป.ช.
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ว.ม.
- บุคคลจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา