สมัคร สุนทรเวช
สมัคร สุนทรเวช (ชื่อจีน: 李沙馬 Lǐ Shāmǎ[1]; 13 มิถุนายน พ.ศ. 2478—24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ( 74 ปี, 164 วัน)) เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยคนที่ 25 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าพรรคพลังประชาชน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ก่อตั้งพรรคประชากรไทย เกิดที่กรุงเทพมหานคร เป็นนักการเมืองเก่าแก่ ที่มีเสียงพูดและลีลาการพูดเป็นเอกลักษณ์ เคยดำรงตำแหน่งสำคัญมากมาย เช่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (2 สมัย) ได้ฉายาจากสื่อมวลชนทั่วไปว่า "น้าหมัก" "ออหมัก" หรือ "ชมพู่" (มาจากลักษณะจมูกของสมัคร) "ชาวนา" (จากกรณีกลุ่มงูเห่า) เป็นต้น
สมัครเริ่มทำงานหลังจบนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เป็นสื่อมวลชนสายการเมือง โดยเขียนบทความ และความคิดเห็น ทางการเมืองแบบไม่ประจำใน หนังสือพิมพ์สยามรัฐ, สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ และชาวกรุง ตั้งแต่ พ.ศ. 2500 จนถึง 2516 เขียนบทความ การเมืองในหนังสือพิมพ์ประชาไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2517 จนถึง 2520 และเขียนบทความในคอลัมน์ประจำ "มุมน้ำเงิน" หนังสือพิมพ์เดลิมิเร่อร์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2521 จนถึง 2537
สมัครข้ามจากการเป็นสื่ออย่างเดียว มาเริ่มต้นชีวิตการเมืองโดยเข้าเป็นสมาชิก พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ปี 2511 ลงสมัครตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนขึ้นถึงระดับชาติ จนมามีบทบาทโดดเด่นช่วงปี 2519 จากการจัดรายการสถานีวิทยุยานเกราะ ที่มีเนื้อหาโจมตีบทบาทของ ขบวนการนักศึกษาในสมัยนั้น พร้อมทั้งปลุกระดมมวลชนให้เกลียดชังขบวนการนักศึกษา และ เป็นศูนย์กลางประสานงาน ถ่ายทอดกำหนดการ และคำสั่งเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านนักศึกษาใน เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
เมื่อสิ้นสุดเหตุการณ์ ในปี พ.ศ. 2519 สมัครได้เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อม ๆ กับการลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และในปี พ.ศ. 2522 ได้ก่อตั้ง พรรคประชากรไทย และดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค มีฐานคะแนนเสียงหลักในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในเขตที่มีหน่วยทหารตั้งอยู่หนาแน่น
ความคิดและบทบาทของสมัคร มักสร้างกระแสมวลชน ทั้งสนับสนุนและคัดค้าน ได้อย่าง กว้างขวางร้อนแรง ไม่ว่าจะเป็น เหตุการณ์ 6 ตุลา, พฤษภาทมิฬ, ไอเดียหนุนกระทงโฟม ไล่มาจนถึง การกล่าวโจมตี ประธานองคมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ทางรายการโทรทัศน์ เมื่อต้นปี พ.ศ. 2549
เนื้อหา |
[แก้] ประวัติ
สมัคร สุนทรเวชเป็นบุตรของ เสวกเอก พระยาบำรุงราชบริพาร (เสมียน สุนทรเวช:2435-2521) กับ คุณหญิงบำรุงราชบริพาร (อำพัน จิตรกร:2445-2524) เป็นหลานลุงของ มหาเสวกตรี พระยาแพทย์พงศาวิสุทธาธิบดี (สุ่น สุนทรเวช) นายแพทย์ประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับพระราชทานนามสกุล "สุนทรเวช"และได้นำมาใช้เป็นนามสกุลร่วมกับบรรดาน้องๆของท่าน ) และเป็นหลานตาของ มหาเสวกตรี พระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร์ จิตรกร) จิตรกรประจำสำนัก
สมัครเป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 6 คน ดังนี้
- พ.อ.(พิเศษ)พ.ญ.มยุรี พลางกูร - อดีตรองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
- นางเยาวมาลย์ ราชวังเมือง - ประกอบธุรกิจส่วนตัว
- พล.อ.อ.สมมต สุนทรเวช - อดีตที่ปรึกษา ทอ. (ถึงแก่กรรมแล้ว)
- สมัคร สุนทรเวช
- นายมโนมัย สุนทรเวช - พนักงานรัฐวิสาหกิจ
- นายสุมิตร สุนทรเวช - นักการเมือง หัวหน้าพรรคประชากรไทย
สมัคร สมรสกับ คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช (สกุลเดิม: นาคน้อย) มีบุตรสาวฝาแฝดคือ กานดาภาและกาญจนากร ปัจจุบันสมรสแล้วทั้งคู่ และเนื่องจากคุณหญิงสุรัตน์ เป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 สถานะการเงินจึงมั่นคงพอที่จะดูแลครอบครัวได้ สมัครจึงมิได้ทำงานประจำใดๆ โดยทำงานการเมืองเพียงอย่างเดียว มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516
[แก้] การถึงแก่อสัญกรรมและพิธีศพ
หลังพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สมัครเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์เนื่องจากป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ขั้วตับ โดยไม่เป็นที่เปิดเผยทางสื่อมวลชนมากนัก จนกระทั่งนายกฤษณะ ไชยรัตน์ พิธีกรรายการโทรทัศน์ เดินทางไปถ่ายทำรายการถึงโรงพยาบาล อาการป่วยของสมัครจึงเป็นที่เปิดเผยในวงกว้าง[2] ต่อมา สมัครจึงเดินทางไปรักษาต่อยังสหรัฐอเมริกา[3] และเดินทางกลับมารักษาตัวในประเทศไทยอีกครั้ง จนถึงแก่อสัญกรรม เมื่อวันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552[4] เวลา 08.48 น. สิริอายุได้ 74 ปี
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานโกศแปดเหลี่ยม น้ำหลวงอาบศพ และเครื่องอัฐบริขารทั้งหมด และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม รับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานพระพิธีธรรม สวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 7 คืน อนึ่ง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ณ ศาลาบัณรศภาค วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
ต่อมา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ไปในการพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ซึ่งมีบุคคลสำคัญของประเทศ เดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก[5]
จากนั้น เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภริยาสมัคร พร้อมด้วยบุตรสาว บุตรเขย และญาติสนิทมิตรสหายจำนวนกว่า 300 คนเดินทางไปยังท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ เพื่อโดยสารเรือหลวงกระบุรีไปประกอบพิธีลอยอังคารอัฐิของสมัคร ณ บริเวณอ่าวสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในการนี้กองทัพเรือโดยพลเรือโทฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นผู้แทนกองทัพเรือต้อนรับพร้อมทั้งอำนวยการประกอบพิธี[6]
[แก้] ประวัติการศึกษา
- ก่อนประถมศึกษา : โรงเรียนสตรีบางขุนพรหม[ต้องการอ้างอิง]
- ระดับประถมศึกษา : โรงเรียนเทเวศน์ศึกษา[ต้องการอ้างอิง]
- ระดับมัธยมศึกษา : โรงเรียนเซนต์คาเบรียล [7][8]
- ระดับอาชีวศึกษา : โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์ [9]
- ระดับอุดมศึกษา : นิติศาสตรบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[ต้องการอ้างอิง]
[แก้] ศึกษาเพิ่มเติม
- ประกาศนียบัตรวิชามัคคุเทศก์ : คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[ต้องการอ้างอิง]
[แก้] ประวัติการทำงาน
- พ.ศ. 2496 : เจ้าหน้าที่สอนเครื่องลงบัญชีไฟฟ้า National Cash Registered Co.,Ltd. (พ.ศ. 2496-2497)
- พ.ศ. 2497 : เสมียนแผนกรถยนต์ และภายหลังดำรงตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าแผนกเครื่องอะไหล่ Barrow Brown Co.,Ltd. (พ.ศ. 2497-2502)
- พ.ศ. 2502 : ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกเครื่องอะไหล่ Loxley Bangkok Co.,Ltd. (พ.ศ. 2502-2504)
- พ.ศ. 2504 : Free Lance Guide, World Travel Service Co.,Ltd. (พ.ศ. 2504-2506)
- พ.ศ. 2507 : ผู้จัดการแผนกเครื่องอะไหล่ บริษัทเอื้อวิทยาพาณิชย์ จำกัด (พ.ศ. 2507-2509)
- พ.ศ. 2510 : Dietary Aid, Fox Rever Rehabilitation Hospital, Chicago U.S.A. (พ.ศ. 2510-2511)
- พ.ศ. 2512 : ผู้จัดการแผนกเครื่องอะไหล่ บริษัท เอื้อวิทยาพาณิชย์ จำกัด (พ.ศ. 2512-2513)
- พ.ศ. 2513 : ผู้บริหารฝ่ายขาย John Deere Thailand Co.,Ltd. (พ.ศ. 2513-2514)
- พ.ศ. 2514 : เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย (พ.ศ. 2514-2516)
- พ.ศ. 2516 : ลาออกจากงานประจำและทำงานการเมืองอย่างเดียวเรื่อยมา เนื่องจากภรรยามีรายได้มั่นคงพอที่จะดูแลครอบครัวแล้ว
[แก้] ประวัติทางการเมือง
สมัครเริ่มต้นชีวิตการเมืองโดยสมัครเข้าเป็นสมาชิก พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี พ.ศ. 2511 เริ่มลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาเทศบาลกรุงเทพมหานคร ในปี พ.ศ. 2514 และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2518 ในชีวิตการเมืองเคยดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง สรุปประวัติทางการเมืองได้ดังนี้
- พ.ศ. 2511 : เข้าเป็นสมาชิก พรรคประชาธิปัตย์ (พ.ศ. 2511 - 2519)
- พ.ศ. 2514 : สมาชิกสภาเทศบาลนครกรุงเทพมหานคร (ได้รับเลือกตั้ง เมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2514)
- พ.ศ. 2516 : สมาชิกสมัชชาแห่งชาติ (ได้รับแต่งตั้งเมื่อ 10 ธ.ค.16) และ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ได้รับแต่งตั้งเมื่อ 23 ธ.ค.16)
- พ.ศ. 2518 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร (ม.ค. 2518)
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาล หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช 2 (15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 – 13 มีนาคม พ.ศ. 2518)
- พ.ศ. 2519 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร (เม.ย. 2519)
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาล หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช 3 (20 เมษายน พ.ศ. 2519 - 23 กันยายน พ.ศ. 2519)
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พ.ศ. 2519 - 2520) ในรัฐบาล นายธานินทร์ กรัยวิเชียร (8 ตุลาคม พ.ศ. 2519 - 19 ตุลาคม พ.ศ. 2520)
- พ.ศ. 2522 : ก่อตั้งพรรคประชากรไทย และดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร (เม.ย. 2522)
- ประธานคณะกรรมาธิการการคลัง และสถาบันการเงิน (พ.ศ. 2523 - 2526)
- พ.ศ. 2526 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร (เม.ย. 2526)
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ 2 (30 เมษายน พ.ศ. 2526 - 5 สิงหาคม พ.ศ. 2529)
- พ.ศ. 2529 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร (ก.ค. 2529)
- ประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง (พ.ศ. 2529 - 2531)
- พ.ศ. 2531 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร (ก.ค. 2531)
- ประธานคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ (พ.ศ. 2531 - 2533)
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ (9 ธันวาคม พ.ศ. 2533 - 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534)
- พ.ศ. 2535 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร (มี.ค. 2535) (ก.ย. 2535)
- รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร (7 เมษายน พ.ศ. 2535 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2535)
- ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม (พ.ศ. 2535 - 2538)
- พ.ศ. 2538 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร (ก.ค. 2538)
- รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา (13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 - 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539)
- พ.ศ. 2539 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร (พ.ย. 2539)
- รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ (25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540)
- พ.ศ. 2543 : ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (พ.ศ. 2543 - 2547)
- พ.ศ. 2550 : รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พ.ศ. 2550 - 30 ก.ย. 2551)
- พ.ศ. 2551 : นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย (29 มกราคม - 9 กันยายน พ.ศ. 2551)
[แก้] การดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
สมัคร สุนทรเวช ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากการเลือกตั้ง พ.ศ. 2543 ด้วยคะแนนเสียง 1,016,096 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนเสียงมากที่สุด นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยผู้ได้คะแนนอันดับ 2 คือ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทย ไดัรับคะแนนเสียงเพียง 521,184 คะแนน
สมัคร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระหว่างปี พ.ศ. 2543-2547 นับเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนที่ 13 และเป็นคนที่ 5 ที่มาจากการเลือกตั้ง แต่หลังจากพ้นตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คดีเรื่องการทุจริตกรณีจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง ก็ยังมีการดำเนินการตรวจสอบจนถึงปัจจุบัน[10]
[แก้] การเลือกตั้งวุฒิสภา 2549
หลังพ้นตำแหน่ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อครบวาระ 4 ปี สมัครตัดสินใจไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สมัยที่ 2 แต่เบนเข็มมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ปี พ.ศ. 2549
ผลการนับคะแนน สมัคร สุนทรเวช ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ด้วยคะแนนเสียง เป็นอันดับสองของประเทศ รองจาก ร.ต.อ.นิติภูมิ นวรัตน์ ที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับที่ 1 แต่ ร.ต.อ.นิติภูมิ ยังไม่ทันได้รับการรับรองตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา จาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง เนื่องจากมีผู้ร้องเรียน เรื่องการไปขึ้นเวทีปราศัยของ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่อาจถือได้ว่าเป็นการ "หาเสียง" และขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง ก่อนที่จะมีการชี้ขาดเรื่องดังกล่าว การเลือกตั้งวุฒิสภา พ.ศ. 2549 ก็ได้ถูกยกเลิก เนื่องจากเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ทำให้สมัครต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยไม่มีโอกาสได้ปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ในฐานะสมาชิกวุฒิสภา
[แก้] ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 25
[แก้] การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2551 สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ ให้นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีในวันเดียวกัน[11] มีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายสมัคร ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อีก 1 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นพลเรือนคนที่ 3 ที่ดำรงตำแหน่งนี้ แต่ยังถูกกล่าวหาจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถึงการดำรงตำแหน่งของสมัคร สุนทรเวช นี้ว่าเป็นนอมินี (ตัวแทน) ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกในข้อหาลงนามชื่อยินยอมให้ภรรยาซื้อที่ดินตามกฎหมาย
ต่อมาวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551 นายชัช ชลวร ประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมคณะ ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในกรณีที่ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความสิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรีของสมัคร ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 267 ประกอบมาตรา 182 (7) เนื่องจากรับเป็นพิธีกรกิตติมศักดิ์ ของรายการ “ชิมไปบ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า” ซึ่งคณะตุลาการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง เห็นว่าสมัครกระทำต้องห้ามขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 267 เรื่องคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี จึงทำให้สมัครสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรีลง แต่ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการไปจนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551 สมัครยังได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชนอย่างไม่เป็นทางการ (ยังไม่มีเอกสารยื่นใบลาออก) โดยให้เหตุผลว่า ได้ทำหน้าที่หัวหน้าพรรคและรักษาระบอบประชาธิปไตยอย่างดีที่สุดแล้ว จึงขอยุติบทบาททางการเมือง ส่วนการดำเนินการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ให้ขึ้นอยู่กับพรรค
[แก้] การปฏิบัติงาน
- เสนอนโยบายการผันแม่น้ำโขงผ่านอุโมงค์ โดยการสร้างใช้หัวเจาะกระสุนกันน้ำซึมเข้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเจาะอุโมงค์แบบรถไฟใต้ดิน คาดว่าปริมาณแม่น้ำโขงจะไหลผ่านอุโมงค์นี้ และแจกจ่ายไปตามโครงข่ายลำน้ำอื่นๆ เป็นการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเพื่อการเกษตรและการอุปโภคในภาคอีสาน ภายใต้ความเชื่อที่ว่า "ถ้าอีสานมีน้ำ อีสานหายจน" [12]
- รื้อฟื้นนำโครงการเมกะโปรเจ็กต์ที่รัฐบาลทักษิณทำไว้กลับมาใช้อีกครั้ง[13]
- เสนอแนวคิดสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่
[แก้] ความมั่นคง
- การประนีประนอมกับทหาร โดยสมัคร กล่าวว่า มีความตั้งใจที่จะออกพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 อยู่แล้ว และจะไม่เข้าไปแทรกแซงจัดการเรื่องโผการโยกย้ายนายทหาร โดยจะปล่อยให้ทางทหารนั้นจัดการกันเอง ซึ่งทำให้ทางทหารแสดงท่าทีเป็นมิตรกับสมัครด้วย [14]
- เสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเน้นหนักในเรื่องการสร้างความเข้าใจ ความเป็นธรรม การพัฒนาการศึกษา พัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีคุณสมบัติเหมาะสมต่อการปฏิบัติงาน และการสร้างความปลอดภัยในพื้นที่[15]
[แก้] เศรษฐกิจ
- ยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% [16]
- ลดราคาสินค้าหมูเนื้อแดงขายจาก 120 บาท ต่อ กก. เหลือเพียง 98 บาท ต่อ กก.[17]
- มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ[18]
- มาตรการ 6 มาตรการ 6 เดือน ช่วยคนจน ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายประชานิยมโดยการทำเงินภาษีมาเพื่อช่วยเหลือประชาชน จนรัฐบาลที่นำโดย นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ขยายเวลาเพิ่มในเวลาต่อมา
[แก้] สิทธิมนุษยชน
- ใช้นโยบายปราบปรามยาเสพติดขั้นเด็ดขาด
- เสนอให้มีเปิดการบ่อนกาสิโนอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งก็ได้รับทั้งความเห็นชอบและคัดค้านจากหลาย ๆ ฝ่ายเป็นอย่างมาก[19]
[แก้] การพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
[แก้] ข้อวิพากษ์วิจารณ์
[แก้] คดีหมิ่นประมาทนายดำรง ลัทธพิพัฒน์
วิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ: |
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2528 นายดำรง ลัทธพิพัฒน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน ในรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ถึงแก่กรรมโดยการประกอบอัตวินิบาต ขณะกำลังเดินทางไปทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากปัญหาความเครียดส่วนตัว ต่อมาสมัคร ซึ่งถูกปรับออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อ พ.ศ. 2529 กลายเป็นฝ่ายค้าน ได้เขียนบทความว่า นายดำรงยังตนเองให้ถึงแก่ความตายเพื่อหนีความผิดค้าเฮโรอีนข้ามประเทศ นางสมศรี ลัทธพิพัฒน์ (เกตุทัต) ภรรยานายดำรง[20] มอบหมายให้นายบัณฑิต ศิริพันธุ์ ทนายความ ฟ้องหมิ่นประมาทสมัคร สุนทรเวช[21] ศาลฎีกามีคำตัดสินเมื่อเดือนธันวาคม 2531[22] ว่า นายสมัครมีความผิดตามฟ้อง ให้จำคุก 6 เดือน แต่ให้รอลงอาญาไว้ และปรับ 4,000 พัน ทั้งให้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับ 7 วัน[23]
[แก้] กรณีคำแถลงปลอม
เมื่อ พ.ศ. 2530 สมัคร สุนทรเวช ถูกปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในครม.คณะที่ 43 [24] และได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ (ครม.คณะที่ 44) เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2530 สมัครอภิปรายกล่าวหาว่า นายจิรายุรับสินบนโดยนำสำเนาคำแถลงแสดงการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเฟิสต์ อินเตอร์สเตตในสหรัฐอเมริกา มาแสดงในสภาและอภิปรายว่ามีชื่อของนายจิรายุ เป็นเจ้าของบัญชีดังกล่าว ซึ่งมีรายการโอนเงินค่าสินบน เป็นจำนวนเงิน 92 ล้านบาท [23] นายจิรายุได้ปฏิเสธและระบุว่าข้อกล่าวหาของสมัครเป็นเท็จและตนไม่เคยมีบัญชีธนาคารในสหรัฐอเมริกา
ต่อมา จากการตรวจสอบโดยคณะกรรมการวิสามัญตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎร ผ่านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พบว่า คำแถลงที่สมัครนำมาแสดงนั้นเป็นของปลอม และนายจิรายุไม่เคยมีบัญชีเงินฝากในธนาคารนั้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีการดำเนินการทางกฎหมายใดๆ กับสมัคร เนื่องจากมีกฎหมายให้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส. ในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ [25] ต่อมา สมัครได้ยอมรับว่า ได้นำเอกสารเท็จมาแสดงในการอภิปรายในครั้งนั้นจริง [26]
[แก้] การจัดรายการโทรทัศน์
สมัคร ร่วมจัดรายการ สนทนาปัญหาบ้านเมือง ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม MV1 ซึ่งถูกโจมตีโดยฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นสื่อที่เข้าข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและหลังจากที่มีการปฏิวัติโดยคณะปฏิรูปฯ สมัคร สุนทรเวช ได้เลิกรายการของตนไป
ก่อนหน้านั้น สมัครได้จัดรายการ "สมัคร-ดุสิต คิดตามวัน" ร่วมกับนายดุสิต ศิริวรรณ ในเวลา 11.00 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ระยะเวลา 30 นาที ซึ่งสมัครได้กล่าวว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ "เลือกข้างใช่ไหม" จนก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และไม่พอใจของหลายฝ่าย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ กล่าวว่า พล.อ.เปรม เป็นที่เคารพของหลายฝ่าย และเป็นถึงประธานองคมนตรี[27] ทำให้สมัครขอยุติรายการดังกล่าวไปด้วยตนเอง
[แก้] คดีหมิ่นประมาทอดีตรองผู้ว่าฯ กทม.
สมัคร และ ดุสิต ศิริวรรณ ซึ่งร่วมกันจัดรายการโทรทัศน์ "เช้าวันนี้ที่ช่อง 5" ทาง ททบ.5 และ "สมัคร-ดุสิต คิดตามวัน" ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ถูกนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในขณะนั้น เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา โดยทั้งสองกล่าวหาว่านายสามารถทุจริตในโครงการจัดซื้อจัดจ้างของกรุงเทพมหานครในรายการโทรทัศน์[28]
ศาลมีคำวินิจฉัยว่า การกระทำของทั้งคู่เป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจริง ทั้งนี้สมัครได้เคยกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทมาแล้วหลายครั้ง โดยศาลปรานีให้รอการลงโทษไว้เพื่อให้ปรับตัวเป็นคนดี แต่สมัครกลับกระทำผิดซ้ำในความผิดเดิมอีก ศาลมีคำสั่งจำคุกสมัคร สุนทรเวช และนายดุสิต ศิริวรรณ รวม 4 กระทง ๆ ละ 6 เดือน รวมจำคุกคนละ 24 เดือน โดยไม่รอลงอาญา[29] ขณะนี้คดีกำลังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์
25 กันยายน พ.ศ. 2551 ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายดุสิต ศิริวรรณ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และใช้เงินสด 200,000 บาท ประกันตัวไป
[แก้] เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
เกี่ยวกับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 สมัครได้เคยกล่าวไว้ในรายการ สมัคร-ดุสิต คิดตามวัน ว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นมีคนตายเพียงคนเดียว และคนนั้นเป็นญวนอีกด้วย ซึ่งสมัครได้ย้ำอีกครั้ง ในการให้สัมภาษณ์กับ แดน ริเวอร์ส ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น ออกอากาศเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 [30][31] และยังกล่าวอีกว่า "ผมบอกว่า ถ้าผมเป็นคนเลวมาไม่ได้ไกลขนาดนี้หรอก ถ้าผมเป็นคนเกี่ยวข้องไม่ได้รับการสนับสนุนให้เดินหน้ามาถึงป่านนี้หรอก"[32]
บทบรรณาธิการของบางกอกโพสต์[33] กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของสมัครว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่ปฏิเสธว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เท่านั้น เขายังปฏิเสธว่าการสังหารหมู่ไม่ได้เกิดขึ้นอีกด้วย ทั้งที่มีภาพถ่ายเป็นหลักฐานแสดงว่ามีผู้เสียชีวิตหลายคน และสมัครเองก็ทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น เนื่องจากเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการปลุกเร้าให้ต่อต้านคอมมิวนิสต์ อันนำไปสู่การสังหารหมู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ [34]
ซึ่งประเด็นนี้ ได้กลายเป็นประเด็นสาธารณะที่มีวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว ในวันที่รัฐบาลแถลงนโยบายในรัฐสภาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 สมัครก็ได้ตอกย้ำสิ่งที่ตนพูดอีกครั้ง ซึ่งเป็นการตอบโต้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายชวน หลีกภัย ฝ่ายค้าน พร้อมกับกล่าวว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการปิดหนังสือพิมพ์หลังเหตุการณ์นี้ และได้สาบานด้วยว่า ถ้าสิ่งที่ตนพูดไม่เป็นความจริง ขอให้ตนพบกับความวิบัติ ถ้าไม่จริง ขอให้เจริญรุ่งเรือง[35] [36]
อีกทั้งสมัครยังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 แต่อย่างใด ขณะที่สื่อมวลชนรายหนึ่ง ได้โชว์รูปถ่ายที่สมัครยืนอยู่ข้างหลังจอมพลประภาส จารุเสถียร ในครั้งนั้นแล้วชี้ให้สมัครดู แต่สมัครปฏิเสธว่าไม่เคยเห็นรูปดังกล่าวมาก่อน
ต่อมาในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 “แม่ลูกจันทร์” แห่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยืนยันว่าภาพดังกล่าวถ่ายไว้ก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ถึง 4 ปี โดยเป็นภาพถ่ายเมื่อ เมื่อ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 ขณะเกิดเหตุการณ์ ผู้ก่อการร้ายปาเลสไตน์ กลุ่มแบล็กเซปเทมเบอร์ บุกยึด สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล ถนนชิดลม และจับเจ้าหน้าที่สถานทูตเป็นตัวประกัน ยื่นเงื่อนไขให้รัฐบาลอิสราเอลปล่อยโจรปาเลสไตน์ที่ถูกจับกุม ภายใน 12 ชั่วโมง ขณะนั้น จอมพลถนอม กิตติขจร เป็น นายกรัฐมนตรี และ จอมพลประภาส จารุเสถียร เป็น รมว. มหาดไทย โดยที่ สมัคร สุนทรเวช ขณะนั้นเป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอล ทำหน้าที่ประสานงานในเหตุการณ์ และ "แม่ลูกจันทร์" เป็นนักข่าวการเมืองที่อยู่ในเหตุการณ์ รูปดังกล่าวจึงไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 [37]
[แก้] ความขัดแย้งกับพล.ต.จำลอง ศรีเมือง
สมัครถือเป็นนักการเมืองที่เป็นเสมือน "คู่รักคู่แค้น" กับทาง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตหัวหน้าพรรคพลังธรรม และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) มาโดยตลอด โดยความขัดแย้งของทั้งคู่มีมาตั้งแต่สมัยที่ พล.ต.จำลองเป็นเลขาธิการ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น สมัครเป็นผู้ที่สนับสนุนกฎหมายทำแท้งเสรี แต่ พล.ต.จำลองเป็นผู้คัดค้าน จนในที่สุดกฎหมายฉบับนี้ก็ไม่ผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภา หลังจากนั้นเมื่อทั้งคู่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีฐานเสียงในกรุงเทพมหานครเหมือนกัน พล.ต.จำลองเมื่อลงรับสมัครเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่สามารถเอาชนะผู้สมัครจากพรรคประชากรไทยของสมัครได้อย่างขาดลอยถึง 2 ครั้ง ต่อมาในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี พ.ศ. 2535 สมัครเป็นหัวหน้าพรรคประชากรไทยที่สนับสนุน พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรี หรือที่เรียกกันว่า "พรรคมาร" ขณะที่ พล.ต.จำลอง เป็นผู้นำในการประท้วง พล.อ.สุจินดา และเมื่อสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี พล.ต.จำลอง ก็ยังเป็นแกนนำของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมต่อต้านการดำรงตำแหน่งของสมัครอีก[38][39]
[แก้] ความสนใจ
[แก้] สัตว์เลี้ยง
นับได้ว่าสมัครเป็นบุคคลที่ชื่นชอบแมวมากที่สุดคนหนึ่ง เขาเริ่มเลี้ยงแมวตั้งแต่วัยเด็ก และเคยเลี้ยงแมวหลายตัวด้วยกัน โดยแมวตัวที่สมัครรักที่สุดมีชื่อว่า เหวิน เหวิน ซึ่งเมื่อเหวิน เหวินตายจากไปสมัครก็ได้ประพันธ์กลอนสุภาพ จำนวน 3 บท ไว้ดังนี้[40]
[แก้] โภชนาการ
สมัครเป็นบุคคลที่ชอบจ่ายตลาด และทำอาหารมาก โดยเป็นผู้ดำเนินรายการ ชิมไปบ่นไป ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และ ยกโขยง 6 โมงเช้า ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 (เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา) ในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อได้เดินทางไปต่างประเทศสมัครมักจะใช้เวลาช่วงเช้าก่อนเริ่มพิธีการในการจ่ายตลาด และดูความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศนั้นๆ[41] นอกจากนี้สมัครยังเคยทำข้าวผัดให้กับทหารในบริเวณชายแดนด้วย
[แก้] เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2517 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นตริตาภรณ์มงกุฏไทย (ต.ม.)
- พ.ศ. 2518 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)
- พ.ศ. 2519 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
- พ.ศ. 2520 - เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 2[42]
- พ.ศ. 2522 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นประถมาภรณ์มงกุฏไทย (ป.ม.)
- พ.ศ. 2524 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- พ.ศ. 2526 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาประมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
- พ.ศ. 2527 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้า (ท.จ.)
- พ.ศ. 2527 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฏ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2539 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นปฐมดิเรกคุณาภรณ์ (ป.ภ.) [43]
- พ.ศ. 2545 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษฝ่ายหน้า (ท.จ.ว.) [44]
[แก้] ผลงาน
- เขียนบทความ และความคิดเห็นทางการบ้านการเมืองแบบไม่ประจำใน สยามรัฐ, สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ และชาวกรุง ตั้งแต่ พ.ศ. 2500 ถึง 2516
- เขียนบทความการเมืองในหนังสือพิมพ์ประชาไทย (พ.ศ. 2517 - พ.ศ. 2520)
- เขียนบทความในคอลัมน์ประจำ (มุมน้ำเงิน) หนังสือพิมพ์เดลิมิเร่อร์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2521 จนถึง พ.ศ. 2537
- ผู้ดำเนินรายการ ชิมไปบ่นไป
- ผู้ดำเนินรายการ ยกโขยง6โมงเช้า ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
- ผู้ดำเนินรายการ เกมนักชิม ทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี
- ผู้ดำเนินรายการ เช้าวันนี้..ที่เมืองไทย ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5
- ผู้ดำเนินรายการ สมัคร ดุสิต คิดตามวัน ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนท์ทีวี
- ผู้ดำเนินรายการ สนทนาประสาสมัคร ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
[แก้] ผลงานทางด้านการบริหารประเทศ
- โครงการถนนวงแหวน
- ตัวเลขบอกเวลาสัญญาณไฟจราจร
[แก้] ผลงานหนังสือ
- สมัคร สุนทรเวช พูด. (ม.ป.ท.), (ม.ป.ป.).
- สันดานหนังสือพิมพ์. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์บูรพาศิลป์, 2520.
- การเมืองเรื่องตัณหา. กรุงเทพฯ : บูรพาศิลปการพิมพ์, 2521.
- จวกลูกเดียว. กรุงเทพฯ : เบญจมิตร, 2522.
- จากสนามไชยถึงสนามหลวง. (ม.ป.ท.), 2522.
- การเมืองเรื่องตัณหา 2. (ม.ป.ท.), 2532.
- เรื่องไม่อยากเล่า. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มิตรสัมพันธ์ กราฟิกอาร์ต, 2530. (พิมพ์ครั้งหลัง : ฐากูรพับลิชชิ่ง, 2543. ISBN 978-974-85986-2-8)
- สมัคร ๖๐. กรุงเทพฯ : ซี.พี.การพิมพ์, 2538.
- ชิมไปบ่นไป. กรุงเทพฯ : อมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์, 2543. ISBN 978-974-387-054-5
- คนรักแมว. กรุงเทพฯ : เนชั่นบุ๊คส์, 2547. ISBN 978-974-8280-21-9
- จดหมายเหตุกรุงเทพฯ. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, 2547. ISBN 978-974-272-920-2
- ใครๆ ก็ชอบไทยฟู้ด. กรุงเทพฯ : ครัวบ้านและสวน, 2548. ISBN 978-974-387-048-4
- สมัคร สุนทรเวช และ ดุสิต ศิริวรรณ. ตำนานหนองงูเห่า และการเมืองเรื่อง CTX. กรุงเทพฯ : 2548. ISBN 978-974-93447-5-0
[แก้] อ้างอิง
- ^ [泰国] 洪林, 黎道纲主编 (April 2006). 泰国华侨华人研究. 香港社会科学出版社有限公司. pp. 187. ISBN 962-620-127-4.
- ^ สมัคร ผ่ามะเร็งที่ขั้วตับ กลับบ้านหลัง 25 ต.ค.
- ^ สมัคร สุนทรเวชป่วยเป็นมะเร็งขั้วตับ
- ^ สมัคร สุนทรเวช ถึงแก่อสัญกรรม
- ^ พิธีพระราชทานเพลิงศพ "สมัคร สุนทรเวช" ข่าวจากมติชนออนไลน์
- ^ กองทัพเรือ จัดเรือหลวงกระบุรี ลอยอังคารอัฐิ "สมัคร สุนทรเวช" ข่าวจากมติชนออนไลน์
- ^ รายชื่อศิษย์เก่าของสถาบันในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลฯ นิตยสารผู้จัดการ 360°
- ^ งานเชิดชูเกียรติชาวเซนต์คาเบรียล ฯพณฯ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
- ^ ศิษย์เก่าดีเด่น โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ หน้า 5
- ^ 'คตส.'ยันหลักฐานคดีรถดับเพลิงมัด'สมัคร'ไม่ใช่เลือกปฏิบัติ
- ^ พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี (นายสมัคร สุนทรเวช)ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนพิเศษที่ 23ง วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551
- ^ Samak's Mekong plan could hurt trade ties
- ^ http://www.bangkokpost.com/News/25Feb2008_news02.php
- ^ จากมติชน 10 กุมภาพันธ์ 2551 หน้า 10 คอลัมน์ การเมือง
- ^ เว็บไซต์กระทรวงมหาดไทย
- ^ เบญจพร วงศ์. ยกเลิกกันสำรอง 30%ปลดล็อกเศรษฐกิจแล้วปลด (ล็อก) อะไรอีก?. กรุงเทพฯ : เนชั่นสุดสัปดาห์, 2551.
- ^ เว็บไซต์กระทรวงพาณิชย์
- ^ http://www.mof.go.th/News2008/014.pdf
- ^ “หมัก” ฟิวส์ขาด ลั่นไม่บ้าพอแก้ รธน.ตั้งกาสิโน
- ^ นิตยสารผู้จัดการ ฉบับที่ 2 เดือนกันยายน 2526
- ^ เปิดใจ "บัณฑิต ศิริพันธุ์" ขอทำงานเพื่อความถูกต้อง หนังสือพิมพ์แนวหน้า 14 กันยายน 2550
- ^ [1] คำพิพากษาศาลฎีกาจำคุก สมัคร 6 เดือนฐานหมิ่นประมาทดำรง, สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์ (26 ก.พ.-4 มี.ค.32), (5-11 มี.ค.32)
- ^ 23.0 23.1 กองบรรณาธิการมติชน. 289 ข่าวดัง 3 ทศวรรษหนังสือพิมพ์มติชน พ.ศ. 2521-2549. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์มติชน, พ.ศ. 2549. 424 หน้า. ISBN 974-323-889-1
- ^ คณะรัฐมนตรีคณะที่ 43
- ^ คอลัมน์ เรียงคนมาเป็นข่าว สำเนาจาก มติชน 25 ตุลาคม 2550
- ^ วิวาทะ สมัคร-ปชป. ซัดกันนัว สำเนาจาก คมชัดลึก 25 มิถุนายน 2551
- ^ http://board.dserver.org/u/uthaisak/00006286.html
- ^ สองคู่หูกอดคอกันตาย 'ศาลสั่งจำคุก 2ปี' จาก กรุงเทพธุรกิจ 12 เมษายน พ.ศ. 2550
- ^ คำพิพากษา สมัคร สุนทรเวช /ดุสิต ศิริวรรณ สำเนาจาก ผู้จัดการออนไลน์ 12 เมษายน 2550
- ^ Samak and The Nation
- ^ 'หมัก'ยัน 6ตุลาฯไม่มีใครตายเว้นคนเดียวถูกเผา-หลักฐานภาพถูกฆ่าโหดเหี้ยมหลายศพ
- ^ “หมัก” ดื้อ! อ้างข้อมูล 6 ตุลา ถูกบิดเบือน ลั่นถ้าเลวไม่มายืนตรงนี้
- ^ Samak shocks, shames nation, เรียกดูเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2551
- ^ http://www.asiasentinel.com/index.php?option=com_content&task=view&id=1047&Itemid=31
- ^ “หมัก” ฉุนแตก! โดน “มาร์ค” แฉปิดสื่อมากสุดหลัง 6 ตุลาฯ
- ^ คนเดือนตุลาหยัน “สมัคร” สาบานกลางสภาสุดน่ารังเกียจ
- ^ http://www.thairath.co.th/news.php?section=hotnews03&content=80109
- ^ “พล.ต.จำลอง” เผยตำนานการต่อสู้กับ “สมัคร” ชนะตลอด! จากผู้จัดการออนไลน์
- ^ การเมืองยุคย้อนยุค จากมติชน
- ^ อีกมุมของ'สมัคร สุนทรเวช'
- ^ เรื่องน่ารู้ของสมัคร สนุทรเวช
- ^ ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม ๙๔, ตอน ๑๓๑ ง ฉบับพิเศษ, ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๐, หน้า ๑
- ^ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๓, ตอน ๒๒ ข เล่ม ๐๐๓, ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๙, หน้า ๒ ลำดับที่ ๒
- ^ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า [สำนักนายกรัฐมนตรี, เล่ม ๑๑๙, ตอน ๗ ข ฉบับทะเบียนฐานันดร, ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๕, หน้า ๑
[แก้] ดูเพิ่ม
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
- ประวัติสมัคร สุนทรเวช จากเว็บไซต์สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
- ประวัติสมัคร สุนทรเวช จากเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลนักการเมือง ThaisWatch.com
- ทีมข่าวหนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน. ปาก..สมัคร พูดอะไร 2 วันก่อนรัฐประหาร 19 กันยา. กรุงเทพฯ : วัฏฏะ, 2550. ISBN 978-974-09-2204-9
- ถนอมศักดิ์ จิรายุสวัสดิ์. สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคนที่ 25. กรุงเทพฯ : อักษรสุดา, 2551. ISBN 978-974-7814-51-4
- สำเนาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ http://viriya.sru.ac.th/e131/e158/e542
สมัยก่อนหน้า | สมัคร สุนทรเวช | สมัยถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ | นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย (ครม. 57) (29 มกราคม พ.ศ. 2551 – 9 กันยายน พ.ศ. 2551) |
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ | ||
เสนาะ อูนากูล พลตำรวจเอก เภา สารสิน มีชัย ฤชุพันธุ์ |
รองนายกรัฐมนตรี (ครม. 48) (7 เมษายน พ.ศ. 2535 - 9 มิถุนายน พ.ศ. 2535) |
พลตำรวจเอก เภา สารสิน เกษม สุวรรณกุล หม่อมราชวงศ์เกษมสโมสร เกษมศรี |
||
บัญญัติ บรรทัดฐาน อำนวย วีรวรรณ บุญชู โรจนเสถียร ศุภชัย พานิชภักดิ์ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ สุขวิช รังสิตพล พลตรี จำลอง ศรีเมือง พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก |
รองนายกรัฐมนตรี (ครม. 51) (13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 - 15 มิถุนายน พ.ศ. 2539 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 - 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539) |
สุขวิช รังสิตพล อำนวย วีรวรรณ กร ทัพพะรังสี มนตรี พงษ์พานิช สมัคร สุนทรเวช พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร วีรพงษ์ รามางกูร สุวิทย์ คุณกิตติ |
||
พลอากาศเอก สมบุญ ระหงษ์ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร บุญพันธ์ แขวัฒนะ อำนวย วีรวรรณ หม่อมราชวงศ์เกษมสโมสร เกษมศรี มนตรี พงษ์พานิช |
รองนายกรัฐมนตรี (ครม. 52) (25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540) |
ศุภชัย พานิชภักดิ์ ปัญจะ เกสรทอง สุวิทย์ คุณกิตติ กร ทัพพะรังสี พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี บัญญัติ บรรทัดฐาน พลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ สุทัศน์ เงินหมื่น |
||
บุญรอด สมทัศน์ | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 - 9 กันยายน พ.ศ. 2551) |
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ | ||
หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ตุลาคม พ.ศ. 2519 - ตุลาคม พ.ศ. 2520) |
พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ | ||
อมร ศิริกายะ | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (30 เมษายน พ.ศ. 2526 - 5 สิงหาคม พ.ศ. 2529) |
บรรหาร ศิลปอาชา | ||
ดร. พิจิตต รัตตกุล | ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (23 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 - 28 สิงหาคม พ.ศ. 2547) |
อภิรักษ์ โกษะโยธิน | ||
สุภาพร เทียนแก้ว | หัวหน้าพรรคพลังประชาชน (24 สิงหาคม พ.ศ. 2550 - 30 กันยายน พ.ศ. 2551) |
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ | ||
- | หัวหน้าพรรคประชากรไทย (9 มีนาคม พ.ศ. 2522 - พฤษภาคม พ.ศ. 2543) |
สุมิตร สุนทรเวช |
|
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2478
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2552
- บุคคลจากกรุงเทพมหานคร
- ชาวไทยเชื้อสายจีน
- นักการเมืองไทย
- นายกรัฐมนตรีไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย
- พรรคประชาธิปัตย์
- พรรคประชากรไทย
- พรรคพลังประชาชน
- แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ
- ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
- ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2543
- บุคคลจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล
- บุคคลจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- นักหนังสือพิมพ์ชาวไทย
- บรรณาธิการหนังสือพิมพ์
- นักพูด
- พิธีกรไทย
- นักโภชนาการ
- สกุลสุนทรเวช
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ป.ช.
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ว.ม.
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ภ.
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ท.จ.ว. (ฝ่ายหน้า)
- สมาชิกเหรียญรัตนาภรณ์ ภ.ป.ร.2
- บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 6 ตุลา