ประเทศเกาหลีใต้

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สาธารณรัฐเกาหลี
ฮันกึล: 대한민국(เกาหลี)
ฮันจา: 大韓民國
ธงชาติ
คำขวัญ널리 인간 세계를 이롭게 하라
นำพาประโยชน์สุขแก่มนุษยชาติอย่างทั่วถึง
(Broadly bring benefit to humanity) (unofficial motto)
เพลงชาติเอกุกกา (애국가/ 愛國歌)
("เพลงรักแผ่นดิน")
เมืองหลวง
(และเมืองใหญ่สุด)
โซล
37°35′N 127°0′E / 37.583°N 127°E / 37.583; 127
ภาษาทางการ ภาษาเกาหลี
การปกครอง ประชาธิปไตยระบอบกึ่งประธานาธิบดี
 -  ประธานาธิบดี ลี มยองปาก
 -  นายกรัฐมนตรี คิม ฮวางซิก
การสถาปนาชาติ
 -  โกโชซอน 2,333 ปีก่อนคริสตกาล 
 -  ประกาศสาธารณรัฐ 1 มีนาคม พ.ศ. 2462 
 -  เสรีภาพ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2488 
 -  สาธารณรัฐที่ 1 15 สิงหาคม พ.ศ. 2491 
พื้นที่
 -  รวม 98,480 ตร.กม. (108)
38,023 ตร.ไมล์ 
 -  แหล่งน้ำ (%) 0.3%
ประชากร
 -  ก.ค. 2550 (ประเมิน) 49,024,737 (25)
 -  2543 (สำมะโน) 45,985,289 source 
 -  ความหนาแน่น 480 คน/ตร.กม. (18)
1,274 คน/ตร.ไมล์
จีดีพี (อำนาจซื้อ) 2551 (ประมาณ)
 -  รวม 1.07 ล้านล้าน ดอลลาร์สหรัฐ (6)
 -  ต่อหัว 19,100 ดอลลาร์สหรัฐ (34)
ดพม. (2554) 0.897 (สูง) (15)
สกุลเงิน วอน (KRW)
เขตเวลา เวลามาตรฐานเกาหลี (UTC+9)
รูปแบบวันที่ (ปี)년 (เดือน)월 (วัน)일
ปปปป/ดด/วว
ระบบจราจร ขวามือ
โดเมนบนสุด .kr
รหัสโทรศัพท์ 82

สาธารณรัฐเกาหลี (อังกฤษ: Republic of Korea; ฮันกึล: 대한민국; ฮันจา: 大韓民國) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า เกาหลีใต้ (อังกฤษ: South Korea) เป็นประเทศในเอเชียตะวันออก มีพื้นที่ครอบคลุมส่วนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี พรมแดนทางเหนือติดกับประเทศเกาหลีเหนือ มีประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้โดยมีทะเลญี่ปุ่นและช่องแคบเกาหลีกั้นไว้

ในภาษาเกาหลีอ่านชื่อประเทศว่า แดฮันมินกุก (อักษรฮันกึล: 대한민국; อักษรฮันจา: 大韓民國) โดยเรียกสั้น ๆ ว่า ฮันกุก (한국) ที่หมายถึงคนชาวฮั่นหรือคนเกาหลี และบางครั้งจะใช้ชื่อว่า นัมฮัน (남한) ที่หมายถึง ชาวฮั่นทางใต้ ส่วนชาวเกาหลีเหนือจะเรียกเกาหลีใต้ว่า นัมโชซอน (남조선) ที่หมายถึง โชซอนใต้

เนื้อหา

[แก้] ประวัติศาสตร์

ดูบทความหลักที่ ประวัติศาสตร์เกาหลี

[แก้] ยุคโกโชซอน

อาณาจักรโชซอนโบราณ

อาณาจักรโกโชซอน หรือ อาณาจักรโชซอนโบราณ ตั้งอยู่ตรงบริเวณตอนใต้ของแมนจูเรียและตอนเหนือของคาบสมุทรเกาหลี ก่อตั้งขึ้นโดยกษัตริย์ ทันกุน วังกอม เมื่อ 2333 ปีก่อนคริสต์ศักราช มีเมืองหลวงคือ วังกอมซอง (เปียงยางในปัจจุบัน) และล่มสลายลงในปี พ.ศ. 435 โดยการเข้ายึดครองโดยกองทัพของราชวงศ์ฮั่นที่ปกครองประเทศจีน ราชวงศ์ฮั่นได้แบ่งอาณาจักรโกโชซอนออกเป็น 4 แคว้นคือ แคว้นนังนัง แคว้นเหลียวตง แคว้นเสิ่นตู และแคว้นเซินฟาน

[แก้] ยุคหกอาณาจักร

ในยุคนี้บนคาบสมุทรเกาิหลีและในแมนจูเรียมีอาณาจักรต่างๆก่อตัวขึ้นจำนวนหกอาณาจักร คือ

[แก้] ยุคสามอาณาจักรแรก

ภาพเขียนสีสมัยอาณาจักรโกคูรยอ

ในยุคนี้คาบสมุทรเกาหลีถูกปกครองโดยสามอาณาจักรที่รุ่งเรืองนับพันปีบนคาบสมุทรเกาหลี คือ

[แก้] ยุคอาณาจักรเหนือใต้

พระราชวังสมัยโบราณในเกาหลี

เมื่ออาณาจักรซิลลาสามารถรวบรวมอาณาจักรแพกเจและอาณาจักรโกคูรยอเข้าด้วยกันได้ในปี ค.ศ. 668 แต่โดยที่จริงแล้วอาณาจักรซิลลาไม่ได้ครอบครองดินแดนทั้งหมดไว้เพียงแต่ครองครองดินแดนทางใต้เท่านั้น โดยเฉพาะดินแดนของอาณาจักรโกคูรยอซิลลาครอบครองเพียงบางส่วนเท่านั้น อาณาจักรซิลลาได้ยกดินแดนบนคาบสมุทรเหลียวตงให้แก่ราชวงศ์ถังของประเทศจีนหลังสิ้นสุดสงครามซิลลา-ถัง แต่ดินแดนทางเหนือจรดไปถึงแมนจูเรียตกอยู่ในการควบคุมของอาณาจักรเกิดใหม่อีกอาณาจักรหนึ่ง ชื่อว่า อาณาจักรบัลแฮ หรือเรียกว่า ป๋อไห่ ในชื่อเรียกตามภาษาจีน ในยุคสมัยนี้ นักประวัติศาสตร์บางท่านจึงจัดว่าเป็นยุคอาณาจักรเหนือใต้ของเกาหลี ประกอบด้วยสองอาณาจักรคือ

[แก้] ยุคสามอาณาจักรหลัง

ยุคนี้ได้เกิดสามอาณาจักรขึ้นมาอีกครั้งบนคาบสมุทรเกาหลีและภายหลังได้รวมกันได้อีกครั้ง ประกอบด้วย 3 อาณาจักร คือ

[แก้] การเมืองการปกครอง

The National Assembly ของเกาหลีใต้
หน่วยงานรัฐบาลกลางแห่งเกาหลีใต้
เมืองพิเศษในประเทศเกาหลีใต้

หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2491 คาบสมุทรเกาหลีถูกแบ่งเป็นสองส่วนโดยเส้นละติจูดที่ 38 องศาเหนือ (มักเรียกว่าเส้นขนาน 38) โดยสหภาพโซเวียตดูแลเกาหลีเหนือมีการปกครองระบอบสังคมนิยม ส่วนสหรัฐอเมริกาดูแลเกาหลีใต้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย

สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ประมุขของประเทศคือประธานาธิบดี ซึ่งได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนให้เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร มีนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา รัฐสภาเป็นองค์กรนิติบัญญัติ และศาลทำหน้าที่ทางตุลาการ ทั้งนี้ เกาหลีใต้มีการแบ่งเขตการปกครองเป็น 9 จังหวัด และ 6 เขตการปกครอง (โซล ปูซาน อินชอน แตกู กวางจู แตชอน)

[แก้] รัฐธรรมนูญ

เกาหลีใต้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรกเมื่อ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2491 โดยได้มีการปรับปรุงแก้ไขมาโดยตลอดอีก 9 ครั้ง การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งล่าสุดมีขึ้นในปี พ.ศ. 2530 เมื่อรัฐบาลประธานาธิบดีชุน ดู ฮวาน ต้องประสบกับภาวะกดดันทางการเมืองจากพรรคการเมืองต่าง ๆ ซึ่งเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรง และในที่สุด ประธานาธิบดีชุน ดู ฮวาน ก็ยินยอมให้มีการลงประชามติ แก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรง โดยอยู่ในตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว (5 ปี) และให้มีการจัดระบบการปกครองท้องถิ่นอิสระเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญที่ได้รับการแก้ไข ยังได้ยกเลิกอำนาจการยุบสภาของประธานาธิบดี และให้รัฐสภามีอำนาจหน้าที่ดูแลและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รวมทั้งระบุว่ากองทัพต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง

[แก้] ฝ่ายนิติบัญญัติ

รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐสภา (National Assembly) เป็นผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ ซึ่งรัฐสภาของเกาหลีใต้เป็นรูปแบบสภาเดียวประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 299 คน โดยสมาชิกจำนวน 2 ใน 3 มาจากการเลือกตั้งโดยตรง ที่เหลือมาจากการแต่งตั้งโดยจัดสรรตามสัดส่วนของพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้ง สมาชิกรัฐสภาแห่งชาติอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี (ล่าสุดเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2547) สภาจะเลือกประธาน (Speaker) และรองประธาน (Vice-Speaker) จำนวน 2 คน

อำนาจหน้าที่ของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า สามารถถอดถอนนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีได้ หากสมาชิกรัฐสภา 1 ใน 3 เสนอขอและสมาชิกสภาข้างมากเห็นชอบตามเสนอ ซึ่งในกรณีการถอดถอนประธานาธิบดีนั้น ต้องเสนอโดยเสียงข้างมากและสมาชิกสภา 2 ใน 3 ให้ความเห็นชอบ

[แก้] ฝ่ายบริหาร

  • ประธานาธิบดี เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร ได้รับเลือกตั้งโดยตรงจากผู้มีสิทธิออกเสียง โดยมีวาระ 5 ปี และไม่สามารถลงสมัครแข่งขันเป็นครั้งที่ 2 ได้ เพื่อเป็นการป้องกันการขยายอำนาจ ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งประมุขของรัฐ และผู้บัญชาการทหารสูงสุดด้วย รวมทั้งเป็นผู้มีอำนาจประกาศกฎอัยการศึก และมาตรการจำเป็นในยามฉุกเฉิน นอกจากนี้ประธานาธิบดีสามารถเสนอร่างกฎหมายให้รัฐสภาพิจารณาได้ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจยุบสภา

[แก้] ฝ่ายตุลาการ

ประกอบด้วยศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา โดยประธานาธิบดีแต่งตั้งประธานศาลฎีกาด้วยความเห็นชอบของรัฐสภา การพิจารณาของศาลกำหนดให้เปิดเผยแก่สาธารณชนทั่วไปได้ ยกเว้นในกรณีที่เห็นว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ หรือเป็นเรื่องที่จะสร้างปัญหาในด้านความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือเป็นภัยต่อขวัญของประชาชน คำพิพากษาจำเป็นต้องปิดเป็นความลับ นอกจากนี้ ยังมีศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหน้าที่ในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ โดยให้ความคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และมีอำนาจในการพิจารณาว่ากฎหมายฉบับใดที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญให้ถือเป็นโมฆะ (โดยมีขั้นตอนการดำเนินการเริ่มจากศาลรัฐธรรมนูญได้รับการร้องขอจากศาลชั้นต้นหรือจากกลุ่มบุคคลที่ข้อร้องเรียนได้รับการพิจารณาจากศาลชั้นต้น ให้พิจารณากฎหมายดังกล่าว) อนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญยังเป็นองค์กรที่มีหน้าที่ตัดสินความถูกต้องทางกฎหมายของกระบวนการถอดถอนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ ได้แก่ ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และผู้พิพากษา รวมทั้งมีอำนาจสั่งยุบพรรคการเมืองตามข้อเสนอของฝ่ายบริหาร หากพบว่าพรรคการเมืองดังกล่าวดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย

[แก้] พรรคการเมือง

เมื่อ ธันวาคม พ.ศ. 2538 เกิดการรวมตัวของ 3 พรรคใหญ่ คือ

  1. พรรค Democratic Justice Party-DJP
  2. พรรค Reunification Democratic Party-RDP และ
  3. พรรค New Democratic Republican Party-NDRP และตั้งชื่อว่าพรรค New Korean Party-NKP

ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ ธ.ค. 2540 ได้เกิดพรรคใหม่คือ

  1. พรรค Grand National Party -GNP (ซึ่งเป็นการรวมตัวของพรรค NKP กับพรรค New Party by the People)
  2. พรรค Millennium Democratic Party-MDP ซึ่งมีนาย คิม แด จุง เป็นหัวหน้าพรรค และ
  3. พรรค United Liberal Democrats-ULD ซึ่งมีนาย คิม จอง พิล เป็นหัวหน้าพรรค

โดยพรรค MDP กับพรรค ULD ได้ร่วมกันส่งนายคิม แด จุง เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และได้รับชัยชนะ โดยนาย คิม จอง พิล ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ต่อมาพรรค ULD ได้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ปัจจุบันมีพรรคฝ่ายค้าน (Grand National Party-GNP) และพรรครัฐบาล (Millennium Democratic Party-MDP) และพรรคฝ่ายค้านเสียงส่วนน้อย (United Liberal Democrats-ULD) ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้าน GNP สามารถคุมเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภารวม 139 ที่นั่ง ทั้งนี้เมื่อ 15 เม.ย. 2547 มีการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้สมัยที่ 17 โดยเป็นการเลือกสมาชิกรัฐสภาทั้งสิ้น 299 ที่นั่งประกอบด้วยการเลือกตั้งโดยตรง 243 ที่นั่ง และจากสัดส่วนพรรค (party list) 56 ที่นั่ง ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการพรรค Uri ได้คะแนนเสียงข้างมากส่งผลให้พรรค Uri กลายเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมากในรัฐสภาเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม พรรค Uri ได้พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งซ่อม 6 ครั้งในเดือนเมษายน 2548 ทำให้พรรค Uri ไม่ได้ครองเสียงข้างมากในสภาอีกต่อไป นอกจากนี้ ยังได้แพ้ในการเลือกตั้งซ่อมในเดือนตุลาคม 2548 อีก ทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลมีปัญหามากขึ้น

[แก้] การฟื้นฟูสถาบันจักรพรรดิ

เจ้าหญิงเฮวอนและสมาชิกแห่งราชวงศ์โชซอน

ในปัจจุบัน แม้ว่าสาธารณรัฐเกาหลีจะปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐซึ่งมีประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐ แต่ก็ยังมีผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ในตำแหน่งสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งเกาหลีที่ถูกล้มล้างไปโดยจักรวรรดิญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ. 1910

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 2006 เจ้าชายวอน รัชทายาทแห่งเกาหลี ได้ทรงสถาปนาพระองค์เองขึ้นดำรงพระยศเป็นประมุขแห่งราชตระกูลจักรพรรดิเกาหลี (ราชวงศ์โชซอน) แต่กระนั้น เจ้าหญิงแฮวอนแห่งเกาหลี ก็ทรงได้รับการสนับสนุนจากคณะราชนิกูลที่เห็นว่าพระนางมีพระอาวุโสสูงสุดในราชวงศ์ จึงจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นเสวยราชย์ดำรงพระยศเป็นประมุขแห่งราชตระกูลจักรพรรดิเกาหลีเช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 2006 พร้อมทั้งทรงประกาศฟื้นฟูสถาบันจักรพรรดิในสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเป็นทางการและอ้างสิทธิในราชบัลลังก์จักรพรรดิแห่งเกาหลี โดยเรียกพระองค์เองว่า จักรพรรดินีแห่งเกาหลี (Empress of Korea) อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มราชนิกุลบางส่วนสนับสนุนให้เจ้าชายชังขึ้นเสวยราชย์และอ้างสิทธิเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ เพราะมีคุณสมบัติที่ครบถ้วนแต่พระองค์กลับปฏิเสธ

ทั้งนี้ ประชาชนเกาหลีมีสถาบันจักรพรรดิเป็นศูนย์รวมจิตใจมาตั้งแต่ช่วงที่เกาหลีเป็นประเทศในอารักขาของจักรวรรดิญี่ปุ่น จนกระทั่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายโฮอุนแห่งเกาหลี ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ของเกาหลีพระองค์ก่อนเมื่อปี ค.ศ. 2005 แต่เนื่องจากไม่มีผู้สืบราชสันตติวงศ์ส่งผลให้บัลลังก์ของราชวงศ์โชซอนว่างเว้นจากตำแหน่งสมเด็จพระจักรพรรดิช่วงหนึ่งในปี ค.ศ. 2005

อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดการณ์ว่าสาธารณรัฐเกาหลีจะมีการฟื้นฟูสถาบันจักรพรรดิอย่างเป็นทางการในอนาคต หากมีการรวมชาติระหว่าง 2 เกาหลี โดยเชื่อว่าสถาบันจักรพรรดินั้นคือศูนย์รวมประวัติศาสตร์ของทั้ง 2 ประเทศในอดีต โดยสำนักโพลในประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไป พบว่า ร้อยละ 54.4 สนับสนุนให้มีการฟื้นฟูสถาบันจักรพรรดิในสาธารณรัฐเกาหลีโดยให้เป็นสัญลักษณ์ของรัฐและมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร[ต้องการอ้างอิง]

[แก้] การแบ่งเขตการปกครอง

ประเทศเกาหลีใต้แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 จังหวัด (เกาหลี: ) 1 จังหวัดปกครองตนเองพิเศษ (เกาหลี: 특별자치도) 6 มหานคร (เกาหลี: 광역시) 1 นครพิเศษ (เกาหลี: 특별시) และ 1 นครปกครองตนเองพิเศษ

Map Namea ฮันกุล ฮันจา ประชากร
นครพิเศษ
โซล/ซออุล 서울특별시 서울特別市b 9,794,304
นครปกครองตนเองพิเศษ
เซจง 세종특별자치시 世宗特別自治市 96,000
มหานคร
ปูซาน/พูซาน 부산광역시 釜山廣域市 3,635,389
แทกู 대구광역시 大邱廣域市 2,512,604
อินชอน 인천광역시 仁川廣域市 2,628,000
แทจอน 대전광역시 大田廣域市 1,442,857
กวางจู/ควางจู 광주광역시 光州廣域市 1,456,308
อุลซาน 울산광역시 蔚山廣域市 1,087,958
จังหวัด
คยองกี 경기도 京畿道 10,415,399
คังวอน 강원도 江原道 1,592,000
ชุงชองบุก 충청북도 忠淸北道 1,462,621
ชุงชองนัม 충청남도 忠淸南道 1,840,410
ชอลลาบุก 전라북도 全羅北道 1,890,669
ชอลลานัม 전라남도 全羅南道 1,994,287
คยองซาบุก 경상북도 慶尙北道 2,775,890
คยองซานัม 경상남도 慶尙南道 2,970,929
จังหวัดปกครองตนเองพิเศษ
เชจู 제주특별자치도 濟州特別自治道 560,000

[แก้] ภูมิศาสตร์

บริเวณภูเขาเบ็คดู ซึ่งมีชื่อเรียกในความหมายโลกสวรรค์

ตั้งอยู่ที่ ละติจูด 33-39 องศาเหนือ ลองจิจูดที่ 125-131 องศาตะวันออก 70% ของประเทศเป็นภูเขา

[แก้] เศรษฐกิจ

เป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด เป็นประเทศกำลังพัฒนาขั้นสูง

[แก้] ประชากร

ฮันบก

ดูเพิ่มได้ใน พุทธศาสนาในเกาหลีใต้

[แก้] วัฒนธรรม

ศิลปะเกาหลีมีลักษณะเด่นหลายประการที่ทำให้เกิดแบบของตัวเอง ศิลปะเกาหลียกย่องธรรมชาติ และการใช้สีอ่อนและเรียบก็ปรากฏอยู่เสมอในภาพเขียนและเครื่องปั้นแบบเกาหลี

[แก้] ศิลปะเกาหลี

พระพุทธรูปในถ้ำซ็อกคูรัม

ศิลปะเกาหลีมีลักษณะเด่นหลายประการที่ทำให้เกิดแบบของตัวเอง ศิลปะเกาหลียกย่องธรรมชาติ และการใช้สีอ่อนและเรียบก็ปรากฏอยู่เสมอในภาพเขียนและเครื่องปั้นแบบเกาหลี วัฒนธรรมงานหัตกรรมพื้นบ้านคือศิลปะที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี งานไม้และเครื่องเขินของเกาหลีเป็นที่รู้จักกันดี โดยเน้นการออกแบบเพื่อประโยชน์ใช้สอยและความเรียบง่าย สิ่งสะดุดตาในงานไม้เกาหลีคือศิลปะการประดับมุก งานหัตกรรมโลหะทำด้วยทอง ทำด้วยสำริด ทางด้านพระพุทธศาสนามีการสร้างพระพุทธรูปสำริด ระฆังวัดที่หล่อด้วยสำริด เอกลักษณ์ของระฆังเกาหลีคือรูปร่างการออกแบบและเสียง ศิลปะเครื่องปั้นดินเผา เกาหลีเป็นประเทศที่เป็นที่ยอมรับในการพัฒนาศิลปะด้านนี้และเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียงคือ ศิลาดล เป็นเครื่องเคลือบที่มีความสดใส ฝีมือประณีต นิยมเคลือบด้วยสีขาวซึ่งพัฒนาให้สวยงามในยุคโกเรียว เพื่อการอนุรักษ์สิ่งดีงามตั้งแต่อตีด ทางการเกาหลีได้จัดตั้งโครงการสมบัติประจำชาติเกาหลีใต้ขึ้น

ศิลปะของนักปราชญ์ เดิมรูปแบบตัวอักษรเกาหลีและญี่ปุ่นเป็นอักษรจีน ซึ่งเป็นตัวเขียนที่ยังใช้อยู่ในเอเชียตะวันออกร่วมพันปี แม้ว่าหลังจากที่เกาหลี ประดิษฐ์อักษรฮันกึล ในปี พ.ศ. 1989 (ค.ศ. 1446) ตัวอักษรจีนยังคงใช้ในภาษาทางการ จนถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เพราะว่าตัวอักษรจีนมีอยู่นับหมื่นตัว แต่ละตัวมีความแตกต่างกัน มีวิธีเขียนหลายแบบ หลายความหมาย การเรียนอ่านและการเขียนตัวอักษรจีนไม่ใชเรื่องง่าย ศิลปะการเขียนอักษรจีนได้เข้ามาในประเทศเกาหลีเมื่อ 1,500 ปีมาแล้ว

การเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันเกาหลีเรียกว่า "บุดกึลซี" ต้องอาศัยปัจจัย 4 ของนักปราชญ์ ได้แก่ หมึก แท่งหินฝนหมึก พู่กันและกระดาษ ศิลปินเขียนพู่กันส่วนใหญ่มักเป็นทั้งนักปราชญ์และจิตรกร ศิลปินเหล่านี้อาจใช้พู่กันเล่มเดียวกันเขียนกลอนบรรยายภาพ ภาพวาดเกาหลี เป็นศิลปะที่มีธรรมเนียมนิยมของตนเองอย่างสมบูรณ์ จิตรกรรม ภาพจิตกรรมของเกาหลีมีมานานแล้ว สถาบันภาพวาดก่อตั้งขึ้นในยุคโกกุริวสถาบันแห่งนี้เน้นภาพวาดที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา รูปแบบจิตรกรรมที่หลากหลายได้พัฒนาสืบต่อกันมาจนถึงสมัยโซชอน พร้อมนำรูปแบบศิลปะจีนแบบใหม่รวมทั้งเทคนิคการวาดภาพแบบตะวันตก มีการใช้สีสันสดใสในภาพที่วาดเกี่ยวกับศาสนานี้

[แก้] เครื่องแต่งกายประจำชาติของเกาหลี

ชาวเกาหลีมีชุดประจำชาติตั้งแต่สมัยโบราณ เรียกว่า ฮันบก (ฮันหมายถึงชาวเกาหลี บกหมายถึงชุด รวมกันหมายถึงชุดของชาวเกาหลี) ฮันบกทั้งของผู้หญิงและผู้ชายมีลักษณะหลวมๆ เพื่อความสะดวกสบายและคล่องแคล่วไม่ใช้กระดุมหรือตะขอ แต่จะใช้ผ้าผูกไว้แทน ชุดของผู้ชาย ข้างล่างประกอบด้วย "ปันซือ" แต่สมัยใหม่เรียกว่า "แพนที" ซึ่งหมายถึงกางเกงใน ชั้นนอกสวม "บาจี" เป็นกางเกงขายาวหลวมๆรวบปลายขาไว้ด้วย "แทมิน" เป็นแถบผ้าใช้มัดขากางเกง"บันโซเม" เป็นเสื้อรัดรูปแขนสั้นไว้ข้างใน เสื้อนอกเรียกว่า "จอโกลี" เป็นเสื้อแขนยาวไม่มีปกไม่มีกระเป๋า

ชุดของผู้หญิง ประกอบด้วย "แพนที" หรือกระโปรงที่อยู่ข้างใน ข้างบนใช้ "ซ็อกชีมา" เป็นแถบผ้าขนาดใหญ่ ใช้มัดทรวงอกไว้แทนเสื้อยกทรง ข้างนอกสวม "ชีมา" เป็นกระโปรงยาวกรอมเท้า สวมเสื้อ "จอโกรี" เป็นเสื้อนอกแขนยาว ฮันบกเป็นภาพรวมศิลปะของเกาหลีที่สามารถพบเห็นได้ตามท้องถนนของเกาหลี ราวกับถนนสายแฟชั่นของปารีส ฮันบกชุดแต่งกายประจำชาติของเกาหลีทำจากผ้าสีสันสดใส เนื้อผ้าจะขึ้นอยู่กับโอกาสและวัยของผู้ใส่ เด็กหญิงหรือหญิงสาวจะสวมกระโปรงสีแดงเสื้อสีเหลือง จะเปลี่ยนเป็นกระโปรงสีแดง เสื้อสีเขียวเมื่อแต่งงานแล้ว ส่วนหญิงสูงอายุอาจเลือกสีสันต่างๆ ที่สดใส และเลือกใช้เนื้อผ้าได้หลากหลาย

ปัจจุบันชุดแต่งกายวัฒนธรรมเดิมจะใช้เฉพาะโอกาสพิเศษเท่านั้น แต่ตามถนนหนทาง และรถไฟใต้ดินจะยังคงเห็นผู้คนสวมใส่กันอยู่บ้าง โดยเฉพาะผู้สูงอายุยังคงสวมใส่ชุดฮันบกอยู่

[แก้] อ้างอิง

[แก้] ดูเพิ่ม

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

คุณสามารถหาข้อมูลภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ ประเทศเกาหลีใต้ ได้โดยค้นหาจากโครงการพี่น้องของวิกิพีเดีย:
Wiktionary-logo-th.png หาความหมาย จากวิกิพจนานุกรม
Wikibooks-logo.svg หนังสือ จากวิกิตำรา
Wikiquote-logo.svg คำคม จากวิกิคำคม
Wikisource-logo.svg ข้อมูลต้นฉบับ จากวิกิซอร์ซ
Commons-logo.svg ภาพและสื่อ จากคอมมอนส์
Wikinews-logo.svg เนื้อหาข่าว จากวิกิข่าว
Wikiversity-logo-en.svg แหล่งเรียนรู้ จากวิกิวิทยาลัย

เครื่องมือส่วนตัว

สิ่งที่แตกต่าง
การกระทำ
ป้ายบอกทาง
มีส่วนร่วม
พิมพ์/ส่งออก
เครื่องมือ
ภาษาอื่น