|
เกมกำมะลอ
คัคนางค์ (กัญญาพัชญ์ ธนันต์ชัยกานต์) เพิ่งเรียนจบจากอเมริกา ถูก ทรรศ (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) กับวิชุณี (กชกร นิมากรณ์) ผู้เป็นพ่อแม่ตามกลับเมืองไทยด่วนเพราะทรรศจับได้ว่าคัคนางค์อยู่กับแฟนหนุ่มต่างชาติ แถมยังดื้อไม่ยอมเรียนต่อหรือทำงาน อยากเดินทางแบ็คแพ็ครอบโลกกับแฟนหนุ่ม วิชุณีได้รู้เรื่องถึงกับเป็นลม ทรรศจึงรีบเดินทางไปหาคัคนางค์ที่อเมริกาด้วยความเป็นห่วงและพาตัวกลับมาก่อนที่จะเตลิดหนีไปกับหนุ่มตาน้ำข้าวจริงๆ คัคนางค์ถูกจำกัดบริเวณอยู่แต่ในบ้านระหว่างที่รอตัดสินใจว่าจะเรียนต่อหรือทำงาน ทำให้เธอโกรธพ่อกับแม่มากที่ยังคิดว่าเธอเป็นเพียงเด็ก ที่ยังไร้เดียงสา เอาตัวรอดไม่ได้ทั้งที่ออกมาใช้ชีวิตไกลบ้านได้ตั้งหลายปีแล้ว ด้วยความดื้อและเอาแต่ใจ อยากได้อะไรต้องได้ของคัคนางค์ทำให้เธอคิดวางแผนจะหนีออกจากบ้านแล้วหาทางบินไปหาแฟนหนุ่มให้ได้
ในงานเลี้ยงฉลองแสดงความยินดีให้กับบัณฑิตใหม่คณะเกษตรฯ ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทุกคนต่างสนุกสนานกับบรรยากาศสังสรรค์ที่ไม่มีทีท่าว่าจะเลิกราง่ายๆ ที่โต๊ะของบัณฑิตใหม่กำลังพูดคุยเรื่องอนาคตของแต่ละคนหลังพ้นจากรั้วมหาวิทยาลัยอย่างออกรส คนที่ได้งานแล้วล้วนตื่นเต้นกับภาระหน้าที่ใหม่ๆ บางคนที่ยังไม่ได้งานก็มีท่าทางกังวลกับอนาคตมากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป จนถึงคิวของ วินธัย (ชนะพล สัตยา) หนุ่มร่างสูงเจ้าของรอยยิ้มกวนๆ เป็นเสน่ห์ที่ถ้าไม่ทำให้ประทับใจก็มักจะหมั่นไส้กันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว วินธัยบอกเพื่อนด้วยท่าทางสบายๆ ว่าจะไปเป็นชาวสวนที่ต่างจังหวัด
เพื่อนๆ ไม่ค่อยใส่ใจคำพูดของวินธัยนัก เพราะตลอดเวลาที่เรียนด้วยกัน ทุกคนเห็นว่าวินธัยเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ มาจากครอบครัวข้าราชการฐานะดี และไม่ค่อยจริงจังกับการเรียนเหมือนมาเพื่อให้ผ่านไปวันๆ ทำตัวสนุกสนานไปเรื่อยเปื่อย ยกเว้น อรทัย หรืออร (มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์) เพื่อนสนิทของวินธัยที่รู้ว่าเบื้องหลังมาดหนุ่มไม่เอาถ่านของเขานั้นมีความมุ่งมั่นจริงจังซ่อนอยู่ และจะเปิดเผยให้เฉพาะคนที่สนิทจริงๆ เท่านั้นได้รับรู้ อรทัยเป็นหนึ่งใน คนสนิท ที่หาได้ยากของวินธัย คอยเป็นที่ปรึกษาเรื่องเรียนและเรื่องอื่นๆ รวมถึงความฝันของเขาด้วย สำหรับวินธัย อรทัยไม่เพียงเป็นเพื่อนสนิทเท่านั้น ยังเป็นคนที่เขาหลงรักมาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมด้วยกัน เพราะมีนิสัยไม่เรื่องมาก ง่ายๆ สบายๆ เหมือนกัน รวมทั้งมีความชอบ ความมุ่งหวังในอนาคตคล้ายกัน ทำให้วินธัยประทับใจและตกอยู่ในสภาวะรักเพื่อนสนิทมาเป็นเวลาหลายปี ครั้งหนึ่งวินธัยสารภาพความในใจให้อรทัยรู้ แต่อรทัย ยังคงเว้นระยะห่างระหว่างเขากับเธอให้เป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกัน วินธัยยอมรับระยะห่างทั้งที่ใจแอบมุ่งหวังว่าสักวันระยะห่างนั้นจะค่อยๆ สลายไป ในวันที่อรทัยยินดีรับความรู้สึกของเขาในฐานะคนร
หลังงานรับปริญญา วินธัยบอกความตั้งใจของเขาให้ วิธูร (ไพโรจน์ สังวริบุตร) ผู้เป็นพ่อฟัง วิธูรเองก็รู้สึกไม่ต่างจากเพื่อนร่วมรุ่นของวินธัย เพราะไม่คิดว่าวินธัยจะสามารถทำได้จริงอย่างที่พูด สองพ่อลูกโต้ตอบกันอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยมีป้าจันทร์ (ปนัดดา โกมารทัต) แม่นมของวินธัยเป็นเหมือนคนกลางคอยไกล่เกลี่ย และเป็นเช่นนี้เสมอ นัยว่าเป็นวิถีของความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก หลังจากกมลรัตน์ (ขวัญฤดี กลมกล่อม) แม่ของวินธัยเสียชีวิตไปหลายปีก่อน ก็มีเพียงวิธูรและป้าจันทร์ที่ดูแลวินธัย นับแต่นั้นวันไหนพ่อลูกไม่ได้โต้คารมกันก็
รู้สึกเหมือนกับขาดอะไรไป ดังนั้นไม่ว่าเรื่องหยุมหยิมแค่ไหนก็จะสามารถกลายเป็นหัวข้อถกเถียงกันไม่รู้เบื่อ รวมทั้งเรื่องที่วินธัยจะไปเป็นชาวสวนก็เช่นกัน วิธูรไม่เห็นด้วยกับแผนการของวินธัย ขณะที่ป้าจันทร์มักเข้าข้างวินธัยจึงสนับสนุนเต็มที่ เพราะรู้ดีว่าเหตุผลที่แท้จริงของวินธัยคืออะไร วิธูรเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพาวินธัยไปพบกับ ทรรศ เพื่อนของวิธูรที่เป็นเจ้าของธุรกิจส่งออกสินค้า เพื่อฝากฝังให้วินธัยทำงานกับทรรศหลังเรียนจบตามความตั้งใจแรกเริ่มของวิธูร วินธัยไม่ยอมท่าเดียว แต่ วิธูรกลับใช้แผนแกล้งป่วยหนักจนทำให้วินธัยไม่สามารถหนีไปอยู่ต่างจังหวัดได้ วินธัยจึงจำต้องมาทำงานเป็นผู้ช่วยทรรศไปก่อนจนกว่าอาการของวิธูรจะหายเป็นปกติ
เมื่อได้มาทำงานกับทรรศ ต้องเข้านอกออกในบ้านของทรรศบ่อยๆ วินธัยจึงได้พบกับ คัคนางค์ ลูกสาวจอมเฮี้ยวหนึ่งเดียวของทรรศ คัคนางค์เจอวินธัยมาทำงานที่บ้านกับทรรศ และรู้มาว่าวินธัยก็ถูกวิธูรผู้เป็นพ่อบังคับให้มาทำงานทั้งที่ไม่อยากทำ เพราะวินธัยอยากทำงานด้านเกษตรอย่างที่ได้ร่ำเรียนมา จึงหวังจะดึงวินธัยมาเป็นพวกช่วยเธอต่อต้านทรรศโทษฐานที่หัวอกเดียวกัน แต่วินธัยไม่เล่นด้วย กลับมองว่าคัคนางค์ยังเป็นเด็ก คิดอะไรง่ายเกินไป ทำให้คัคนางค์เลิกพูดดีกับวินธัยและกลายเป็นไม่ถูกกันเพราะความดื้อไม่ยอมลงให้ใครของคัคนางค์เอง พอมาเจอกับวินธัย นักยียวนกวนประสาทตัวยงก็เลยกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันอย่างช่วยไม่ได้ วิชุณีที่แอบเล็งให้วินธัยกับคัคนางค์ชอบพอกันมักจะหาโอกาสให้ทั้งคู่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน โดยไม่ทันสังเกตว่าการพูดคุยของทั้งคู่นั้นเต็มไปด้วยการประชดประชัน ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะอยู่อย่างนั้น
แล้วความลับก็ยากที่จะเก็บไว้ให้เป็นความลับได้ตลอดไป เมื่อป้าจันทร์สังเกตว่าวิธูรดูสุขภาพดีเกินกว่าที่จะกำลังป่วยอย่างที่บอกกับวินธัย ป้าจันทร์ปรึกษากับวินธัยจนในที่สุดเขาก็จับได้ว่าวิธูรแกล้งป่วยเพื่อรั้งเขาไว้ วินธัยไประบายความหงุดหงิดให้อรทัยฟัง อรทัยให้กำลังใจวินธัยกลับไปเจรจากับวิธูรอีกครั้ง แต่วินธัยเคืองพ่อเสียแล้วที่หลอกเขา ตัดสินใจจะหลบไปเงียบๆ โดยไม่บอกให้วิธูรรู้ว่าเขาไปไหน แม้ป้าจันทร์จะทัดทาน อย่างไรก็ไม่ยอมฟัง
ถึงวันที่วินธัยจะเดินทาง วินธัยมาทำงานที่บ้านของทรรศเหมือนปกติ แต่แอบวางจดหมายลาออกไว้กะให้ทรรศเห็นวันรุ่งขึ้น แต่คัคนางค์เจอเข้าเสียก่อน นึกรู้ทันว่าวินธัยกำลังจะเดินทางไปต่างจังหวัด จึงคิดแผนจะหนีออกจากบ้านโดยหลบเข้าไปซ่อนในรถของวินธัย หวังติดรถวินธัยไปลงที่ต่างจังหวัดเพื่อให้พ่อแม่ตามหาไม่เจอ แล้วค่อยหาทางไปอเมริกา ด้วยการตัดสินใจฉุกละหุกทำให้คัคนางค์ไม่ได้เอาอะไรติดตัวไปเลยนอกจากกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินติดกระเป๋าไม่กี่บาท
เมื่อกล่าวลาทรรศกับวิชุณี ทำทีว่าจะกลับบ้านแล้ว วินธัยก็ออกเดินทางด้วยรถจี๊ปคันเก่าเก็บของวิธูรที่เขาแอบเอาไปซ่อมจนใช้การได้ ไม่ทันสังเกตว่ามีบุคคลไม่ได้รับเชิญอยู่ในรถด้วย ระหว่างทางมุ่งหน้าไปยังสวนเก่าของกมลรัตน์ที่ต่างจังหวัด คัคนางค์ได้ทีแกล้งหลอกวินธัยให้เข้าใจว่ามีผีอยู่ในรถให้วินธัยตกใจเล่น แต่ยังไม่ทันจะได้กระโดดลงจากรถอย่างที่ตั้งใจไว้ คัคนางค์ก็เผลอหลับจนกระทั่งเกือบมาถึงสวน
เมื่อวินธัยรู้ว่าคัคนางค์แอบตามมาด้วยก็ตกใจ อยากจะรีบโทรไปบอกทรรศ แต่ก็กลัวว่าความจะแตกเรื่องที่เขาหนีมา คัคนางค์เดาออกว่าวินธัยก็หนีมาเช่นกันจึงถือโอกาสต่อรอง ถ้าวินธัยบอกทรรศเรื่องเธอหนีมา เธอก็จะบอกวิธูรเรื่องเขาเหมือนกัน ทั้งสองคนทะเลาะกันยกใหญ่ วินธัยว่าคัคนางค์ทำให้เขายุ่งยากมากกว่าเดิมอีก จนคัคนางค์หงุดหงิดตั้งท่าจะแยกตัวไป แม้วินธัยจะไม่ชอบที่คัคนางค์หัวดื้อยึดเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ไม่ยอมฟังคนอื่น แต่ก็ต้องรีบห้ามคัคนางค์ไว้เพราะยังอยู่กลางป่าแถมยังมืดแล้ว อีกอย่างคือวินธัยเคารพทรรศเหมือนญาติผู้ใหญ่ คิดว่าทรรศคงกำลังวุ่นวายมากที่รู้ว่าลูกสาวคนเดียวหายตัวไปจากบ้าน จึงตัดสินใจหว่านล้อมให้คัคนางค์อยู่ที่สวนกับเขาก่อนระยะหนึ่ง อย่างน้อยก็มั่นใจว่าคัคนางค์ปลอดภัยอยู่ใกล้ตัว ถ่วงเวลาไว้จนกว่าจะหาทางส่งข่าวให้ทรรศรู้ คัคนางค์เองก็เพลียกับการเดินทางเต็มที ตัดสินใจตามวินธัยไปก่อน คิดว่าพักสักคืนก็ไม่เสียหาย แล้วค่อยออกมาอีกทีวันรุ่งขึ้น
ทั้งสองมาถึงหมู่บ้านเวลาค่อนดึก วินธัยพาคัคนางค์มาที่บ้านของจั่น (โอริเวอร์ บีเวอร์) ญาติห่างๆ ของกมลรัตน์ แม่ของวินธัยที่มีที่ดินอยู่ติดกัน จั่นกับกมลรัตน์สนิทสนมกันมานาน จั่นรับหน้าที่ดูแลสวนของกมลรัตน์มาตลอด จนกระทั่งวินธัยติดต่อจั่นว่าจะกลับมาอยู่ที่สวน จั่นดีใจมากที่จะได้พบวินธัยอีกครั้งหลังไม่ได้พบกันมานานหลายปี รับเป็นธุระช่วยจัดการเรื่องต่างๆ ที่วินธัยขอ รวมทั้งเรื่องที่จะปิดไม่ให้วิธูรรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ด้วย
จั่นจัดแจงให้วินธัยพักที่บ้านของแกระหว่างที่วินธัยยังไม่มีบ้านพักที่สวน จั่น กับเมี้ยน (มัณฑนา หิมะทองคำ) ศรีภรรยา และชมพู่ (จุฑามาศ มันตะลัมพะ) ลูกสาว ประหลาดใจที่เห็นวินธัยพาคัคนางค์มาด้วยโดยไม่บอกล่วงหน้า คิดไปว่าเป็นเมียของวินธัย วินธัยตัดสินใจปล่อยเลยตามเลยให้ทุกคนคิดแบบนี้ดีกว่าให้รู้ว่าคัคนางค์หนีมากับผู้ชายที่ไม่สนิทชิดเชื้อ แต่คัคนางค์คิดว่าเขาจงใจแกล้งให้เธอเสียหายมากกว่า วินธัยชักหงุดหงิดที่คัคนางค์ไม่เข้าใจ แต่ก็ได้ทีแกล้งคัคนางค์เต็มที่เพราะที่หมู่บ้านนี้ยังไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าไรนัก
คืนนั้นคัคนางค์จึงได้นุ่งกระโจมอกอาบน้ำตุ่มกลางแจ้งเป็นครั้งแรกในชีวิต โดยมีชมพู่เป็นพี่เลี้ยงตามประกบใกล้ชิดตามคำสั่งเมี้ยนที่ให้ดูแลคัคนางค์อย่างดี คัคนางค์เก้ๆ กังๆ แต่ก็เก็บอาการไม่ยอมให้วินธัยเห็นความประหม่าของเธอเด็ดขาด เพราะเขาพูดสบประมาทว่าเด็กอย่างเธอไม่สามารถใช้ชีวิตคนเดียวหรืออยู่ในที่ที่ลำบากได้แน่นอน แถมยังต้องนอนร่วมห้องกับวินธัยอีกเพราะเมี้ยนเตรียมห้องไว้ให้ห้องเดียว คัคนางค์ไล่วินธัยไปนอนที่อื่นไม่ได้จึงต้องทนนอนกับวินธัยในห้องแคบๆ ทนฟังเสียง (แกล้ง) กรนของวินธัย แต่วินธัยก็สนุกกับการแกล้งอยู่ได้ไม่นานเพราะคัคนางค์นอนดิ้นเตะถีบเขาจนแทบไม่ได้หลับทั้งคืน
รุ่งขึ้น วินธัยกับจั่นไปที่สวนเพื่อเริ่มงานโดยไม่รอช้า โดยมีเมธี (อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา) หลานชายของจั่นมาช่วยอีกแรง เมธีเป็นคนหนุ่มที่ยึดอาชีพชาวสวน ขอแบ่งที่ดินของจั่นที่อยู่ข้างๆ ที่ดินของวินธัยมาทำสวน ดังนั้นเมธีจึงมีสถานะเป็นเพื่อนบ้านของวินธัยไปโดยปริยาย วินธัยกับเมธีคุยกันอย่างถูกคอตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ด้วยความที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันและสนใจงานเกษตรเหมือนกัน วินธัยจึงได้ที่ปรึกษาเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง
ด้านคัคนางค์อยู่ที่บ้านกับชมพู่และเมี้ยนผู้เอาแต่ซักถามประวัติส่วนตัวของคัคนางค์ พร้อมคำถามเด็ดว่าคัคนางค์กับวินธัยมาคบกันได้อย่างไร คัคนางค์ตอบไปมั่วๆ อย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก และความตั้งใจที่จะออกจากหมู่บ้านก็ล้มไม่เป็นท่า เพราะชมพู่ตามติดคัคนางค์ทุกฝีก้าวด้วยความสนอกสนใจ ทั้งเมี้ยนยังคะยั้นคะยอให้คัคนางค์ทำอาหารเที่ยงไปส่งให้วินธัยที่สวนด้วยกัน คัคนางค์ต้องเรียนรู้การทำอาหารพื้นบ้านตั้งแต่ศูนย์ด้วยความทุลักทุเล และยังไม่วายแอบแกล้งปรุงรสให้เผ็ดจัดเพื่อแกล้งวินธัยอีก แต่เท่านี้ไม่สามารถทำอะไรวินธัยได้อยู่แล้ว คัคนางค์ได้แต่เจ็บใจ คิดหาทางแกล้งอื่นๆ อีกไม่หยุดหย่อน
ข่าวการมาอยู่ที่หมู่บ้านของวินธัยแพร่สะพัดไปทั่ว ทำให้ชาวบ้านหลายคนแวะเวียนมาเยี่ยมๆ มองๆ หาวินธัยและ เมียสาว (ปลอมๆ) อย่างคัคนางค์ไม่เว้นแต่ละวัน แต่ละคนล้วนอยากรู้ว่าวินธัยจะมาอยู่ที่สวนได้จริงหรือเปล่า โดยเฉพาะสาวสวยประจำหมู่บ้านอย่างเหมียว (สิริลภัส กองตระการ) ที่ตื่นเต้นกับวินธัยเป็นพิเศษ แวะเวียนมาพูดคุยส่งน้ำส่งขนมให้วินธัยที่ง่วนกับงานสร้างบ้านอย่างไม่แคร์สายตาใครรวมทั้งคัคนางค์ ยิ่งคัคนางค์ทำท่าเฉยๆ เพราะไม่ได้เป็นคู่ผัวตัวเมียกับวินธัยจริงๆ เหมียวยิ่งกล้ามาหาทุกวัน เหตุการณ์นี้ทำให้ทองขาว (นวพล ภูวดล) ขาโจ๋ในหมู่บ้านที่ชอบเหมียวอยู่ชักจะไม่ชอบหน้าวินธัย ทองขาวไปพูดโน้มน้าวให้คนหนุ่มๆ หลายคนในหมู่บ้านที่ลุงจั่นตามมาช่วยสร้างบ้านให้วินธัยไม่ยอมมาช่วยอีก
วินธัยกลัวว่าจะเกิดเรื่องบาดหมางกันระหว่างพวกลุงจั่นกับพวกทองขาว จึงหันมาขอร้องแกมบังคับให้คัคนางค์สวมบทบาทภรรยาให้สมจริงกว่านี้ คัคนางค์เริ่มรำคาญทั้งวินธัยและเหมียวที่มายุ่งวุ่นวายกับเธอ ตั้งท่าจะออกไปจากหมู่บ้านเพื่อหาทางกลับอเมริกาอย่างที่ตั้งใจไว้ วินธัยเลยต้องหาทางถ่วงเวลาโดยการออกปากว่าจ้างให้คัคนางค์รับบทภรรยาของเขาอย่างจริงจังกว่านี้ โดยค่าจ้างคือตั๋วเครื่องบินไปอเมริกา คัคนางค์คิดหนักเพราะจริงๆ แล้วตอนนี้เธอไม่มีปัญญาซื้อตั๋วเครื่องบินเอง เงินที่ติดตัวมาก็ใช้จนหมดภายในไม่กี่วัน บัตรเครดิตต่างๆ ก็ถูกทรรศระงับตั้งแต่กลับมา สุดท้ายก็ตอบตกลงเพราะเอาเข้าจริงแล้วเธอก็เคว้งคว้างไม่มีที่ไป แล้วคัคนางค์ก็ไม่ทำให้วินธัยผิดหวัง เพราะวางมาดเป็นเจ้าเข้าเจ้าของวินธัยจนเหมียวต้องม้วนเสื่อกลับบ้านแทบไม่ทัน แต่ยังไม่วายมีเรื่องกันอยู่เนืองๆ เวลาเจอกันที่ตลาด ชมพู่ที่ไม่ถูกกันกับเหมียวอยู่แล้วยิ่งชอบใจเวลาคัคนางค์ปะทะกับเหมียว คอยเป็นลูกคู่ออกหน้าแทน คัคนางค์เลยเบาแรงไปบ้าง
นานวันเข้าคัคนางค์เริ่มเบื่อการอยู่บ้านกับป้าเมี้ยนที่พูดเป็นต่อยหอยไม่ยอมหยุด จึงชวนชมพู่ตามวินธัยมาที่สวนด้วย คัคนางค์อยากมีส่วนร่วมไปเสียทุกอย่างทั้งงานปลูกผักและสร้างบ้าน วินธัยหาว่าเธอเกะกะ คัคนางค์ไม่มีทางยอมวินธัยอยู่แล้ว อีกทั้งคัคนางค์มีเมธีเป็นพวก คอยไกล่เกลี่ยให้วินธัยยอมตามใจคัคนางค์ด้วยเห็นใจเธอที่ต้องตามสามีอย่างวินธัยมาอยู่ในหมู่บ้านห่างไกลความเจริญ ทั้งที่ดูไม่เหมาะกับตัวเธอสักนิด เมธีจึงกลายเป็นเพื่อนคู่หูของคัคนางค์เพิ่มอีกหนึ่งคน เมื่อมีเมธีกับชมพู่ถือหางข้างตัวเองอยู่คัคนางค์จึงได้ลงมือทำโน่นนี่เองจนหมดแรงหลับไม่รู้ตัว วินธัยเริ่มเอ็นดูความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ใครของคัคนางค์ แต่ก็ต้องรีบเปลี่ยนความคิดกะทันหันเพราะวันต่อมาคัคนางค์ก็เข้ามาเจ้ากี้เจ้าการเรื่องการแต่งบ้านของวินธัย จนทะเลาะกันวุ่นวายเหมือนเคย
งานสวนของวินธัยกำลังเข้าที่เข้าทาง ใช้หลักเน้นปลูกเพื่อกิน เหลือจึงนำไปแปรรูปหรือขาย และได้แนะนำให้คนอื่นๆ ในหมู่บ้านทดลองใช้วิธีการนี้ด้วย มีเมธีทำตามเป็นคนแรก พอบ้านสร้างเสร็จเรียบร้อย วินธัยกับคัคนางค์ก็ย้ายเข้ามาอยู่ทันที คัคนางค์ที่ชอบบ่นเรื่องต้องร่วมห้องกับวินธัยเสมอ พอได้ห้องส่วนตัว (ด้วยความเจ้ากี้เจ้าการของเธอเอง) ก็มีความสุขมาก เริ่มตื่นแต่เช้าเป็นนิสัย ลงมารดน้ำต้นไม้ดอกไม้ที่เธอปลูกเอง และทำหน้าที่ดูแลบ้านไปเองโดยอัตโนมัติ แม้ว่าอาหารที่เธอทำจะดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ก็กลายเป็นเรื่องหยอกล้อสนุกสนานของวินธัยกับคัคนางค์ไปแล้ว ความรู้สึกที่เคยไม่ชอบหน้ากันเริ่มคลี่คลาย พร้อมจะเติบโตไปเป็นอย่างอื่นโดยไม่มีใครรู้ตัว คัคนางค์เหมือนจะลืมเรื่องอเมริกาไปชั่วคราว
และเมื่อทั้งสองคนอยู่ในภาวะพักรบ ต่างคนจึงได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความหวังในใจให้ต่างฝ่ายรับรู้... วินธัยบอกเหตุผลที่เขาอยากเป็นชาวสวน ว่าเป็นเพราะเมื่อวินธัยยังเป็นเด็ก กมลรัตน์ผู้เป็นแม่มักจะพาวินธัยมาที่สวนนี้เสมอ เขาได้ซึมซับความรักและความเอาใจใส่เวลาที่แม่ทำงานในสวนผักผลไม้ โดยมีเขาช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ อยู่ข้างๆ ทำให้วินธัยรู้สึกชอบวิถีชีวิตสงบเงียบเช่นนั้นมาเรื่อยๆ แต่เมื่อภาระการงานของกมลรัตน์มีมากขึ้น ทำให้ไม่มีโอกาสได้กลับมาอีก วินธัยรู้ดีว่าแม่อยากมาใช้ชีวิตที่สวนอีกครั้งในบั้นปลาย และอยากทำให้ความตั้งใจของแม่เป็นจริง เขาจึงเลือกเรียนคณะเกษตรฯ หวังจะเก็บเกี่ยวความรู้ไว้ใช้ในสวนของกมลรัตน์ แต่ยังไม่ทันที่วินธัยจะเรียนจบ กมลรัตน์ก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเสียก่อน กลายเป็นแรงผลักดันให้วินธัยคิดกลับมายังสวนของกมลรัตน์และเริ่มต้นใช้ชีวิตเรียบง่ายอย่างที่ตัวเองชอบตั้งแต่ตอนนี้...
วินธัยเองไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาจึงรู้สึกอยากเล่าเรื่องนี้ให้คัคนางค์ฟัง ทั้งที่ผ่านมาเขาไม่ยอมเปิดเผยความลับในใจกับใครง่ายๆ แต่ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกดีๆ และไว้วางใจคัคนางค์มากขึ้น ส่วนคัคนางค์ก็ได้เห็นมุมใหม่ๆ ที่ไม่เคยคิดว่าวินธัยจะมีความมุ่งมั่นจริงจังมากขนาดนี้ หันมามองวินธัยในแง่ดีขึ้น หลังจากเป็นคู่กัดกันมาตลอด นอกจากเรื่องนี้ วินธัยยังบอกความลับว่าเขาแอบชอบเพื่อนคนหนึ่ง ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เลิกหวังแม้จะไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่มาอยู่ที่สวน
เหมือนใครบนฟ้าเล่นตลก รุ่งขึ้นเมื่อวินธัยเข้าไปทำธุระในเมืองก็พบกับอรทัยเข้าพอดี อรทัยมาทำงานเป็นผู้ช่วยอำพล (ดนัย สมุทรโคจร) พี่ชายที่เป็นผู้จัดการบริษัทจำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืชและปุ๋ยซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว และเป็นบริษัทใหญ่ที่สุดในตัวเมือง ทั้งคู่ดีใจมากที่ได้พบกันอีกครั้ง วินธัยชวนอรทัยมาดูผลงานของเขาที่สวน มีอำพลที่ตามมาด้วยอย่างเสียไม่ได้ วินธัยแนะนำอรทัยให้คัคนางค์กับเมธีรู้จักพร้อมทั้งส่งสัญญาณบอกคัคนางค์ว่านี่คือคนที่เขาเพิ่งพูดถึงเมื่อคืนนี้เอง คัคนางค์อึ้งไปเล็กน้อยที่จู่ๆ อรทัยก็ปรากฏตัว ส่วนเมธีก็ตกหลุมรักอรทัยตั้งแต่แรกพบ ไม่ต่างจากอำพลก็รู้สึกติดใจคัคนางค์เพราะหน้าตาบุคลิกตรงสเป็ค และท่าทางจะไม่ใช่ผู้หญิงทั่วๆ ไปในหมู่บ้าน
อรทัยระบายความในใจว่าเธอเบื่องานที่บริษัทของที่บ้าน เพราะเป็นการเอาเปรียบเกษตรกรที่ขายแต่เมล็ดพันธุ์แพงๆ ทำให้เกษตรกรต้องเป็นหนี้ นอกจากนี้ยังต้องใช้ปุ๋ยและสารเคมีควบคู่ไปด้วยเพื่อให้ผลผลิตได้ขนาดตรงกับที่ตลาดต้องการ ทั้งที่สารเคมีเหล่านี้เป็นอันตรายทั้งคนปลูกและคนกิน วินธัยคิดเรื่องนี้อยู่เช่นเดียวกันหลังจากคลุกคลีกับชาวบ้านในหมู่บ้านมาระยะหนึ่ง ทั้งสองคนจึงเกิดความตั้งใจอยากสร้างทางเลือกที่ปลอดภัยให้กับเกษตรกร โดยจะร่วมกันทำโครงการเกษตรอินทรีย์ ให้ความรู้ชาวบ้านในการปลูกผักปลอดสารพิษและสร้างเครือข่ายตลาดขายสินค้าปลอดสารพิษ วินธัยจะใช้สวนของเขาเป็นที่เริ่มต้นทำโครงการ และมีเมธีเป็นกำลังสนับสนุนด้วยความตื่นเต้นที่จะมีโอกาสใกล้ชิดอรทัย เมธีพยายามเสนอตัวเข้าไปช่วยเหลืออรทัยทุกเรื่องจนอรทัยรู้สึกวางใจกลายเป็นเพื่อนกันในที่สุด
อำพลรู้เรื่องที่อรทัยจะไปทำโครงการกับวินธัยก็ไม่พอใจมาก เพราะเท่ากับว่าอรทัยกำลังต่อต้านธุรกิจของครอบครัวตัวเอง อำพลห้ามอรทัยพร้อมดูถูกว่าอย่างอรทัยไม่มีทางทำสำเร็จ ทำให้อรทัยตัดสินใจลาออกจากการเป็นผู้ช่วยของอำพล แล้วไปพักอยู่กับวินธัยเพื่อมุ่งทำโครงการเต็มตัว อำพลจึงต้องตามไปสังเกตการณ์ที่หมู่บ้านเป็นระยะตามคำสั่งของพ่อแม่
ระหว่างนั้นเหมียวที่เลิกยุ่งกับวินธัยมาระยะหนึ่งก็ได้พบกับอำพล และกลายเป็นเป้าหมายรายใหม่ของเหมียวทันที อำพลนั้นแม้จะไม่ได้สนใจเหมียวมากนัก เพราะสนใจคัคนางค์มากกว่า แต่ก็ยังกั๊กเอาไว้หวังจะได้ใช้ประโยชน์จากเหมียว เหมียวถูกอำพลใช้คำหวานหลอกล่อนิดหน่อยก็ปลื้มไปหลายวัน คิดว่าอำพลสนใจเธอจริงๆ ยิ่งแต่งหน้าแต่งตัวสวยขึ้นกว่าเดิม ทำให้ทองขาวไม่พอใจอีกตามเคย ที่เหมียวไม่เคยจะแลทองขาวก็เพราะเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่มีความตื่นเต้นประทับใจ อีกทั้งทองขาวเป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่มีทรัพย์สมบัติร่ำรวยที่จะทำให้เหมียวสุขสบายได้ เหมียวจึงสนแต่ผู้ชายฐานะดีเท่านั้น ขณะที่ทองขาวกลับรักเหมียวปักใจไม่เคยเปลี่ยน อาการปั้นปึ่งของเหมียวจึงทำร้ายจิตใจทองขาวนัก จนทองขาวเคียดแค้นผู้ชายทุกคนที่เหมียวชอบ ทั้งวินธัยและอำพล หมายมั่นว่าจะไม่มีใครแย่งเหมียวไปจากเขาได้
ความรู้สึกดีๆที่วินธัยมีต่ออรทัยกลับชัดเจนขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้มาอยู่ใกล้ๆ กัน วินธัยดูมีชีวิตชีวาแตกต่างจากคนที่คัคนางค์เคยเห็น ด้านอรทัยก็เริ่มเกิดความรู้สึกดีต่อวินธัยชนิดที่มากกว่าเพื่อน พยายามหักห้ามใจเพราะเข้าใจเหมือนทุกคนว่าวินธัยแต่งงานกับคัคนางค์แล้ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหาเวลาอยู่ใกล้ชิดกันให้มากที่สุด คัคนางค์กลายเป็นส่วนเกินที่คุยกับทั้งคู่ไม่รู้เรื่อง พาลโมโหโวยวายใส่วินธัยอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยว่าเขากำลังทำให้ชื่อเสียงของเธอเสียหาย เพราะเขายังอยู่ในฐานะสามีของเธอ การที่วินธัยสนิทกับอรทัยเกินไปจะทำให้ชาวบ้านนินทาได้ แต่วินธัยหาว่าคัคนางค์คิดมากเกินไป คัคนางค์จึงเอาคืนด้วยการแกล้งทำเป็นหยอกล้อสนิทสนมกับเมธีต่อหน้าวินธัย แต่วินธัยดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจอย่างที่คัคนางค์คาด
เมธีรู้ว่าคัคนางค์แกล้งประชดวินธัยเพราะความรัก แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคัคนางค์จึงไม่ใช้สิทธิความเป็นภรรยาเหมือนที่เคยไล่เหมียวกระเจิงมาแล้ว คัคนางค์จึงตัดสินใจเล่าความจริงให้เมธีกับชมพู่ฟังว่าทั้งคู่เป็นผัวเมียกำมะลอ และอรทัยคือผู้หญิงที่วินธัยรักมาตลอด เมธีทั้งตกใจกับเรื่องของคัคนางค์และเศร้าเมื่อรู้ว่าอรทัยกับวินธัยเป็นคู่รักกัน ที่ผ่านมาระหว่างเมธีกับอรทัยก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตลอด ด้วยความใกล้ชิดทำให้เมธีเกิดความหวังอยู่ลึกๆว่าจะเอาชนะใจอรทัยได้สักวัน เมื่อรู้ว่าความหวังเลือนลาง เมธีจึงค่อยๆ ตีตัวออกห่างจากอรทัย ไม่พูดคุยสนิทสนมเหมือนเดิม
อำพลวางแผนเกลี้ยกล่อมให้เหมียวเข้าไปร่วมโครงการของวินธัยเพื่อคอยสืบเรื่องหวังทำลายโครงการ เหมียวจึงแกล้งไปประจบวินธัยว่าอยากเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ และสัญญาว่าจะเลิกเป็นตัวป่วนระหว่างวินธัยกับคัคนางค์ อรทัยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวมาก่อนเห็นท่าทางแสร้งตั้งใจของเหมียวก็ช่วยพูดอีกแรงจนเหมียวได้เข้าร่วม แต่คัคนางค์รู้สึกไม่ไว้ใจเหมียวตงิดๆ เพราะเป็นคู่ปรับกันมาแต่ไหนแต่ไร แถมชมพู่ยังเคยเห็นเหมียวกับอำพลลอบพบกันในที่ลับตา โดยที่อำพลเองก็ส่อเจตนาประสงค์ร้ายใส่วินธัยอย่างชัดเจนอยู่แล้ว คัคนางค์กับชมพู่จึงระแวงว่าเหมียวอาจมีแผนร้ายซ่อนอยู่ คอยหาเรื่องแกล้งให้เหมียวเผยความลับออกมาอยู่เรื่อย แต่เหมียวแก้คืนด้วยการไปทำท่าน่าสงสาร ถูกรังแกฝ่ายเดียวให้อรทัยเห็น อรทัยเลยเข้าข้างเหมียว ลามไปถึงวินธัยที่มองว่าคัคนางค์ยังไม่เลิกอคติเหมียว คัคนางค์ทั้งรำคาญทั้งน้อยใจที่วินธัยหลงอรทัยจนไม่ลืมหูลืมตา อรทัยพูดอะไรก็เชื่อไปหมด จึงเลิกยุ่งเรื่องเหมียว ทั้งแอบแช่งด้วยความหมั่นไส้อยากให้โครงการของวินธัยล่มเพราะอำพลจริงๆ ให้รู้แล้วรู้รอด
เหมียวหมั่นไส้คัคนางค์ที่ตามจิกกัดไม่เลิก ทั้งยังสังเกตเห็นความสัมพันธ์ของวินธัยกับอรทัยที่นับวันจะเกินกว่าความเป็นเพื่อน เลยยุส่งให้อรทัยแย่งวินธัยมาจากคัคนางค์ โดยหว่านล้อมว่าจริงๆ แล้ววินธัยกับคัคนางค์ก็ดูจะไปกันไม่รอด เพราะทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน อรทัยถูกยุแยงบ่อยๆ เข้าก็เริ่มคล้อยตาม ประกอบกับความรู้สึกในใจของตัวเองที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจึงไถลไปตามแผนของเหมียว เมธีที่เฝ้าดูอรทัยอยู่ห่างๆ รู้สึกผิดหวังที่อรทัยหลงลืมความถูกต้องไปชั่วขณะ เพราะอย่างไรเสียทุกๆ คนก็ยังเข้าใจว่าวินธัยกับคัคนางค์เป็นสามีภรรยากัน แล้วอรทัยยังใกล้ชิดกับวินธัยอย่างไม่แคร์ใครแบบนี้ เมธีเข้าไปเตือนด้วยความเป็นห่วงแต่กลับถูกอรทัยย้อนว่าเมธีไม่เข้าใจคนที่มีความรักอยู่แทบล้นใจ ด้วยความผิดหวังเสียใจเมธีจึงหลุดปากพูดเรื่องสถานะกำมะลอของวินธัยกับคัคนางค์ออกไป
อรทัยตกใจกับความจริงข้อนี้มาก รีบไปถามวินธัย วินธัยอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอย่างไรดี แต่คัคนางค์เข้ามาตอบแทนด้วยอยากประชดวินธัย ทำเป็นพูดเปิดทางให้อรทัยอย่างเต็มที่ อรทัยเลยสารภาพรักกับวินธัยต่อหน้าคัคนางค์ เล่นเอาอึ้งกันไปทั้งวินธัยและคัคนางค์ คัคนางค์ใจแป้ว เพราะคิดไปว่าวินธัยจะได้สมหวังเสียที ขณะที่วินธัยต้องประหลาดใจตัวเองเพราะรู้สึกดีใจน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็ปล่อยเลยตามเลย
อำพลรู้เรื่องอรทัยก็มาต่อว่าเหมียวอย่างรุนแรงที่เป็นคนยุแยงให้อรทัยไปรักกับศัตรูของเขา ทั้งยังมาโวยวายกับอรทัยว่าหลงวินธัยไม่ลืมหูลืมตา อรทัยจึงเล่าความจริงให้อำพลฟัง อำพลรู้ว่าคัคนางค์โสดจึงลิงโลดได้ทีมาจีบคัคนางค์อย่างออกนอกหน้า สร้างความขุ่นเคืองให้แก่เหมียวอย่างมาก แต่อำพลก็เอาตัวรอดได้ว่าเป็นแค่แผนให้คัคนางค์กับวินธัยแตกคอกัน หลอกให้เหมียวตายใจและแอบเป็นสายลับให้เหมือนเดิม
ด้านวินธัยเห็นอำพลแวะเวียนมาหาคัคนางค์ทั้งเช้าเย็นก็ชักจะรู้สึกแปลกๆ ยิ่งคัคนางค์ทำเป็นหยอกล้อสนิทสนมกับอำพล (เฉพาะต่อหน้าวินธัย) ก็ยิ่งหงุดหงิดไม่รู้ตัว เข้าไปเตือนคัคนางค์ให้เห็นแก่หน้าเมธีบ้าง เพราะเข้าใจว่าคัคนางค์กับเมธีชอบพอกัน แต่จริงๆ แล้วมันคือความรู้สึกหึงหวงที่เกิดมาจากความรักที่วินธัยไม่เคยรู้สึกมาก่อนจนกระทั่งตอนนี้
อำพลให้เหมียวไปหว่านเสน่ห์กับทองขาวเพื่อยืมมือทองขาวสร้างเรื่องวุ่นวายในหมู่บ้านสารพัด ทั้งทำให้ชาวบ้านแตกคอกันเอง และก่อกวนโครงการของวินธัยจนวุ่นวายไปหมด เหมียวที่หึงหวงคัคนางค์ไปเสี้ยมให้ทองขาวช่วยเธอลักพาตัวคัคนางค์ไปขังไว้ในป่าลึกท้ายหมู่บ้าน หวังจะใช้กำลังข่มขู่ให้คัคนางค์ไม่กล้ายุ่งกับอำพลอีก ทำให้อำพลทะเลาะกับเหมียวจนทองขาว ได้รู้ความจริงว่าที่แท้เหมียวมาทำดีกับเขาก็เพื่อหลอกใช้ แถมเหมียวยังไม่รู้ตัวอีกว่าถูกอำพลหลอกใช้เช่นกัน ด้วยความรักและภักดีกับเหมียว ทองขาวจึงลักพาตัวอรทัยไปด้วยอีกคนเพื่อแก้แค้นทั้งอำพลและวินธัยที่ทำให้เหมียวหน้ามืดตามัว
วินธัยกับเมธีตามหาคัคนางค์กับอรทัยอย่างไม่คิดชีวิตจนเจอก่อนที่ทั้งสองสาวจะติดอยู่ในกระท่อมร้างในสวน ในใจของวินธัยนั้นเป็นห่วงคัคนางค์มากกว่าใคร แต่สิ่งที่คัคนางค์เห็นหลังฟื้นขึ้นมากลับเป็นภาพวินธัยกำลังประคองอรทัยอยู่ ยิ่งทำให้คัคนางค์เข้าใจว่าวินธัยไม่มีทางจะรักเธอมากไปกว่าอรทัย คนรักครั้งแรกของเขา
ทองขาวถูกตำรวจจับกุม แต่อำพลซึ่งช็อคมากที่พลอยทำให้อรทัยตกอยู่ในอันตรายไปด้วยกลับเข้ามาสารภาพผิดว่าเป็นผู้บงการ หลังเรื่องราววุ่นวายผ่านพ้น คัคนางค์ตัดสินใจเลิกแสดงเป็นภรรยาของวินธัย เธอโทรหาทรรศกับวิชุณีเพื่อกลับบ้านไปอย่างเงียบๆ ทิ้งคำสัญญาไว้กับวินธัยว่าจะไม่ปริปากเรื่องที่อยู่ของเขาให้ใครรู้โดยเฉพาะวิธูร ด้านทรรศกับวิชุณีที่ตามหาคัคนางค์จนแทบพลิกแผ่นดิน เมื่อได้รับโทรศัพท์จากคัคนางค์ก็ดีใจมาก รีบมารับคัคนางค์ตามนัด
คัคนางค์ไม่ยอมปริปากถึงเรื่องที่หายตัวไปแม้แต่คำเดียว เพียงแค่ยอมล้มเลิกแผนการแบ็คแพ็ครอบโลกกับแฟนฝรั่ง และจะกลับไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ วิชุณีแปลกใจที่คัคนางค์เปลี่ยนไป จากที่เคยอารมณ์ร้อนเป็นเย็นลงและเหมือนมีเรื่องเศร้าบางอย่างในใจ คัคนางค์สารภาพกับแฟนหนุ่มว่าเธอมีคนอื่นที่รักมากกว่าจึงเลิกราจากกันไปด้วยดี ด้านวิธูรก็มาแสดงความยินดีกับทรรศและวิชุณีที่พบคัคนางค์แล้ว คัคนางค์สังเกตว่าวิธูรท่าทางเศร้าเพราะไม่รู้ว่าวินธัยหายตัวไปไหน ประกอบกับได้คุยกับป้าจันทร์จนรู้ว่าวิธูรตรอมใจจนล้มป่วยจริงๆ คัคนางค์จึงใจอ่อน ยอมเปิดเผยกับวิธูรว่าเธอไปอยู่ที่สวนกับวินธัย พร้อมทั้งอธิบายความตั้งใจของวินธัยให้วิธูรฟัง หวังให้สองพ่อลูกได้เข้าใจกันเสียที
วิธูรกับป้าจันทร์ตามไปหาวินธัยที่สวนเพื่อบอกว่ายอมรับในสิ่งที่วินธัยตัดสินใจ ได้เห็นผลงานของวินธัยที่สามารถใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการได้และยังทำประโยชน์ให้แก่ชุมชนได้อีก สองพ่อลูกจึงได้กลับมาโต้คารมกันอีกครั้ง ท่ามกลางความโล่งใจของป้าจันทร์ที่พ่อลูกเข้าใจกันในที่สุด วิธูรบอกวินธัยว่าคัคนางค์เป็นคนเกลี้ยกล่อมให้วิธูรเข้าใจวินธัย และคัคนางค์กำลังจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศในอีกไม่กี่วันข้างหน้า วินธัยไม่รู้จะทำอย่างไร ทั้งที่ในที่สุดอรทัยก็หันมารักเขา ทุกอย่างกำลังจะเป็นเหมือนที่เขาหวังไว้ แต่เขาก็ไม่สามารถลืมความรู้สึกที่มีต่อคัคนางค์ได้เลย
สุดท้ายอรทัยเองที่เป็นคนให้กำลังใจวินธัยเลือกทำตามหัวใจของตัวเอง วินธัยกับอรทัยตกลงกันว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเช่นนี้ต่อไป วินธัยรีบเข้ากรุงเทพฯ มุ่งไปหาคัคนางค์ ขณะที่อรทัยตกอยู่ในความเศร้า เมธีกลายมาเป็นเพื่อนปลอบใจอยู่ข้างๆ อรทัยด้วยความรักที่ยังอยู่ในหัวใจของเขาไม่เคยเปลี่ยน รอวันที่อรทัยจะเปิดใจรับเขาในฐานะคนรักสักวัน
วินธัยบึ่งมาหาคัคนางค์ที่บ้าน หวังจะเหนี่ยวรั้งให้คัคนางค์กลับไปอยู่ที่สวนกับเขา แต่คัคนางค์กลับยืนยันว่าเธอจะไป ไม่ยอมฟังวินธัยอธิบายว่าเขารู้หัวใจตัวเองแล้วว่าเขารักเธอ... วินธัยขับรถจี๊ปคันเดิมกลับสวนด้วยอารมณ์หงอยๆ เมื่อผ่านป่ามืดๆที่เคยจอดรถมาทะเลาะกับคัคนางค์ในวันที่เธอแอบหนีตามมาด้วย วินธัยก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากหลังรถเหมือนคราวนั้น คัคนางค์ปรากฏตัวขึ้นพร้อมรอยยิ้ม ที่บอกว่าเธอจะไม่ไปไหนไกลจากเขาอีก และเธอยินดีที่จะใช้ชีวิตเป็นสาวชาวสวนที่รักธรรมชาติอยู่กับเขาตลอดไป
นักแสดง
ชนะพล สัตยา วินธัย
กัญญาพัชญ์ ธนันต์ชัยกานต์ คัคนางค์
มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์ อรทัย
อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา เมธี
ดนัย สมุทรโคจร อำพล
นวพล ภูวดล ทองขาว
สิริลภัส กองตระการ เหมียว
จุฑามาศ มันตะลัมพะ ชมพู่
ไพโรจน์ สังวริบุตร วิธูร
อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ ทรรศ
โอลิเวอร์ บีเว่อร์ จั่น
มัณฑนา หิมะทองคำ เมี้ยน
ปนัดดา โกมารฑัต ป้าจันทร์
กชกร นิมากรณ์ วิชุณี
ขวัญฤดี กลมกล่อม กมลรัตน์
ฯลฯ
|
|