ชวนคุยเรื่อง "ฟ้าใหม่"

(1/4) > >>

เทาชมพู:
 ตอนนี้กำลังดูละครหลังข่าวของช่อง 7 สี เรื่อง"ฟ้าใหม่" ทุกวันจันทร์และอังคาร    เพราะดิฉันเป็นแฟนหนังสือของคุณศุภร บุนนาค
ก็เลยอยากจะมาชวนคุยเรื่องนี้  พยายามโยงเข้ากับวิชาการเรือนไทยให้ได้  เวบมาสเตอร์ได้ไม่ค้อนเอา ว่านอกเรื่อง

ฟ้าใหม่ มีตัวละครเอกคือ แสน หนุ่มน้อยเชื้อแขกเทศ   เพื่อนร่วมสาบานรุ่นน้องของคุณคนใหญ่ คุณกลาง และคุณเล็ก เข้าชุดกันเป็น 4 ทหารเสือ ในตอนปลายอยุธยา

คุณคนใหญ่หรือคุณใหญ่    เราคงรู้กันแล้วว่าต่อมาก็คือเจ้าพระยาจักรีสมัยธนบุรี หรือพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1
คุณกลาง  หรือพระยากำแพงเพชร คือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
คุณเล็ก   หรือนายสุดจินดามหาดเล็ก  ต่อมาก็คือกรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาทในรัชกาลที่ 1
ว่าแต่...แสนคือใคร?

แสน เป็นตัวละครสมมุติ     แต่คุณศุภร ได้อาศัยพื้นฐานจากบุคคลจริงมาบ้าง แล้วแต่งเติมเสริมต่อให้เป็นตัวละครเอกในนิยายขึ้นมา
ตระกูลบ้านท่าตะเภาแขกของแสน   เป็นเค้าเงื่อนแรกที่ทำให้รู้ว่าผู้เขียนอาศัยพื้นฐานจากตระกูลไหนเป็นฉากหลัง
นั่นก็คือตระกูล "บุนนาค" ที่คุณศุภรเป็นสะใภ้คนหนึ่งของตระกูลนี้นั่นเอง  

เทาชมพู:

ใครที่เป็นลูกหลานตระกูลบุนนาคและรู้ประวัติของต้นตระกูล  ตามที่ปรากฎอยู่ในหลักฐานหนังสือหลายเล่มเช่น  มหามุขมาตยานุกูล ว่าด้วยลำดับวงศ์ตระกูลขุนนางไทยทั้งสิ้นในแผ่นดิน
หรือ ลำดับสกุลเก่าบางสกุล ภาค ๓ (สกุลเฉกอะหะหมัด)
หรืออ่าน โครงกระดูกในตู้ ของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
คงมองเห็นเค้าของสกุลบุนนาคปรากฏอยู่ในต้นสกุลของแสน

หลักฐานของตระกูลบุนนาค มีอยู่ว่าพ่อค้าอาหรับชื่อเฉกอะหะหมัด เดินทางเข้ามาค้าขายกับอาณาจักรศรีอยุธยา ในสมัยพระเอกาทศรถ  และเข้ารับราชการในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ได้เป็นเจ้าพระยาเฉกอะหะหมัดรัตนราชมนตรี
บุตรหลาน(ส่วนหนึ่ง)ของเฉกอะหะหมัด กลายเป็นคนไทย นับถือพุทธศาสนา  รับราชการกันมาทุกชั่วคนจนถึงปลายอยุธยา
ถึงสมัยพระเจ้าบรมโกศ นายบุนนาคบุตรพระยาจ่าแสนยากร เข้ารับราชการเป็นมหาดเล็ก
หลังจากเสียกรุงครั้งที่ ๒ นายบุนนาคกลายมาเป็นทนายหน้าหอ หรือคนสนิทของเจ้าพระยาจักรี (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ)
นายบุนนาคได้สมรสกับคุณนวล สกุล ณ บางช้าง น้องภรรยาเจ้าพระยาจักรี
และครับราชการต่อมาด้วยความเจริญก้าวหน้าในรัชกาลที่ ๑

เค้าโครงชีวิตของนายบุนนาค ได้กลายมาเป็นพื้นหลังให้สร้างชีวิตของแสน พอเทียบกันได้คือ

พ่อค้าอาหรับชื่อเฉกมุสตาฟา เดินทางเข้ามาค้าขายในอยุธยา ไม่ระบุสมัย
และต่อมาเข้ารับราชการ  ได้เป็นพระยาชลสาย
บุตรหลานของเฉกมุสตาฟา กลายเป็นคนไทยนับถือพุทธศาสนา รับราชการกันมาทุกชั่วคนจนถึงปลายอยุธยา
ถึงสมัยพระเจ้าบรมโกศ แสน บุตรพระพิชิตบรเทศเข้ารับราชการเป็นมหาดเล็ก
หลังจากเสียกรุงครั้งที่ ๒ แสนรับราชการกับพระเจ้าตากสินฯ ได้เป็นหลวงต่างใจและพระมหามนตรีตามลำดับ
แสนได้สมรสกับแม่เรณูนวล ธิดาเจ้าพระยาพิษณุโลก (เรือง) ๑ ใน ๖ ก๊ก ที่ตั้งตนเป็นใหญ่หลังเสียกรุง
แสนรับราชการด้วยความเจริญก้าวหน้าในรัชกาลที่ ๑ ในตอนจบของนิยาย

จ้อ:
 น่าสนใจครับ แต่ผมไม่ค่อยดูโทรทัศน์เท่าไหร่
รอฟังคนในเรือนไทยเล่าให้ฟังดีกว่า แหะๆๆ

พวงร้อย:
 ดิฉันเคยมีเพื่อนที่หน้าตาไม่เหมือนคนไทยเลย  ได้ความว่า  ต้นสุกลของคุณแม่เค้า  เป็นแขกมาจากเปอร์เซีย  แขกอาหรับส่วนใหญ่ที่เข้ามาเมืองไทยนี่  ไม่ทราบว่ามาจากเปอร์เซียหรือที่อื่นบ้างนะคะ  จำได้เลาๆว่า  กองทหารอาสาในสมัยพระนารายณ์  ที่ประกอบด้วยทหารหลายชาติ (รวมทั้ง ญี่ปุ่นและ โปรตุเกสด้วย)  ก็มีกองทหารเปอร์เซียด้วยเหมือนกัน

เทาชมพู:
 ตามบันทึกของฝรั่งที่เข้ามาสมัยอยุธยา   พ่อค้ามุสลิมในสยามมีหลายกลุ่มค่ะ เช่น พวกมัวร์  อาหรับ เปอร์เชียและกลิงค์(อินเดีย)  

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป