ดาวยูเรนัส
เขียนเมื่อวันที่ 15/01/2012 - 22:10
ภาพถ่ายของดาวยูเรนัสโดยกล้องฮับเบิลใช้ฟิลเตอร์อินฟราเรด
ดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 7 และใหญ่เป็นอันดับ 3
แต่มีมวลน้อยกว่าดาวเนปจูน ยูเรนัสเป็นชื่อของเทพเจ้ากรีก
เป็นลูกและสามีของจีอา(Gaea) และเป็นพ่อของโครนัส(Cronus)
หรือดาวเสาร์(Saturn),ไซคลอปส์(Cyclopes)และไททัน(Titans)ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งเขาโอลิมปัสในยุคแรก
ยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์ดวงแรกที่ค้นพบในสมัยใหม่โดยวิลเลียม เฮอร์เชล(William
Herschel) ขณะที่กำลังสำรวจท้องฟ้าในวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ 1978
ความจริงแล้วมีคนเห็นมันหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีใครสนใจเพราะคิดว่าเป็นดาวฤกษ์ธรรมดา
ที่มีการบันทึกครั้งแรกคือในปี ค.ศ 1690 โดยจอห์น เฟลมสตีค(John Flamsteed)
เขาบันทึกว่าเป็นดาวฤกษ์ชื่อ 34 Tauri ตอนแรก เฮอร์เชลตั้งชื่อว่า จอเจียม
ไซดัส(Georgiaum Sidus) แปลว่าดาวเคราะห์แห่งยอร์ช(Georgian Planet)
เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่สนับสนุนเขาคือพระเจ้ายอร์ชที่ 3(George III) แห่งอังกฤษ
แต่คนอื่นก็เรียกมันว่าเฮอร์เชล ชื่อยูเรนัสนั้นเสนอโดยโบด(Bode)
เพื่อให้เหมือนกันชื่อดาวเคราะห์ดวงอื่นที่เป็นชื่อเทพเจ้าแต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายจนกระทั่งปี
ค.ศ.1850
การสำรวจดาวยูเรนัสนั้นมีเพียงดาววอยเอเจอร์ 2 เท่านั้นที่เคยบินผ่านในวันที่ 25 มกราคม ค.ศ.1986 ทำให้เราได้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับดาวเคราะห์ดวงนี้
ภาพวาดการโคจรของดาวยูเรนัสรอบดวงอาทิตย์จะเห็นว่าแกนหมุนนั้นเอียงมากเกือบจะขนานกับวงโคจร
ดาวเคราะห์ส่วนมากจะหมุนตั้งฉากกับระนาบวงโคจร แต่ดาวยูเรนัสหมุนเกือบจะขนานกับระนาบวงโคจร ขณะที่ดาววอยเอเจอร์ 2 บินผ่านดาวยูเรนัสหันขั้วใต้เข้าหาดวงอาทิตย์ คือบริเวณขั้วจะได้รับพลังงานมากกว่าบริเวณศูนย์สูตร แต่บริเวณศูนย์สูตรกลับร้อนกว่าบริเวณขั้ว ซึ่งเรายังไม่ทราบกลไกที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้
ความจริงยังมีการถกเถียงกันอยู่ว่าขั้วไหนเป็นขั้วเหนือของดาวยูเรนัส
ถ้าคิดว่าแกนเอียงมากกว่า 90 องศา
ดาวยูเรนัสจะหมุนไปข้างหน้าแต่ถ้าคิดว่าแกนเอียงน้อยกว่า 90
องศาก็จะเป็นการหมุนย้อนกลับ(Retrograde)เหมือนดาวศุกร์
องค์ประกอบส่วนมากจะเป็นหินและน้ำแข็ง มีไฮโดรเจนเพียง 15 %
และฮีเลียมเพียงเล็กน้อย ซึ่งต่างกับดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ที่ส่วนมากเป็นไฮโดรเจน
แกนกลางของดาวยูเรนัสเป็นของแข็งถัดออกมาเป็นของเหลวที่ประกอบด้วยน้ำ
แอมโมเนียและมีเทน บรรยากาศประกอบด้วยไฮโดรเจน 83% ฮีเลียม 15% และมีเทน 2
%
ดาวยูเรนัสมีแถบเมฆเหมือนดาวเคราะห์ที่เป็นแก๊สดวงอื่นๆ
แถบเมฆนี้หมุนเร็วมากแต่ก็ไม่ชัดเหมือนแถบเมฆของดาวพฤหัสบดี
เมื่อใช้กล้องฮับเบิลส่องจะเห็นวงแหวนชัดเจนกว่ากล้องบนโลก
นอกจากนี้ยังเห็นปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดจากฤดูบนดาวยูเรนัส
เนื่องจากตอนที่ดวงอาทิตย์ส่องที่ซีกใต้ของดาวทำให้เกิดอากาศที่ต่างกันของกลางวันและกลางคืนก่อนปี
ค.ศ.2007 ดวงอาทิตย์จะส่องบริเวณเส้นศูนย์สูตรของดาวยูเรนัส
เราอาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอีกก็ได้
สีน้ำเงินของดาวยูเรนัสที่เราเห็นเกิดจากก๊าซมีเทนที่อยู่ในบรรยากาศด้านบนดูดกลืนแสงสีแดงเอาไว้
แต่ก็อาจมีแถบสีเหมือนดาวพฤหัสบดีก็ได้
ซึ่งเราไม่สามารถมองผ่านชั้นเมฆมีเทนลงไปได้
ภาพถ่ายจากยานวอยเอเจอร์ 2 แสดงวงแหวนต่างๆ
ดาวยูเรนัสมีวงแหวนเหมือนดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ดวงอื่นแต่มืดมาก ส่วนประกอบของวงแหวนมีตั้งแต่ฝุ่นจนถึงมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เมตร เท่าที่รู้ตอนนี้ดาวยูเรนัสมีวงแหวน 11 วง วงที่สว่างที่สุดคือวงเอบไซลอน(Epsilon) วงแหวนของดาวยูเรนัสค้นพบหลังจากพบวงแหวนของดาวเสาร์ทำให้เรารู้ว่า การมีวงแหวนเป็นเรื่องปกติไม่ได้แปลกแต่อย่างใด
ดาวยูเรนัสมีดวงจันทร์ที่มีชื่อตอนนี้มีเพียง 20 ดวง
อีกหนึ่งดวงที่เพิ่งพบล่าสุดยังไม่มีชื่อ
ชื่อดวงจันทร์ของดาวยูเรนัสจะไม่เหมือนกับดวงจันทร์ของดาวเคราะห์อื่นที่มาจากเทพนิยาย
แต่จะมาจากบทประพันธ์ของเชกเปียร์ (Shakespeare) และพระสันตปาปา (Pope)
สนามแม่เหล็กของดาวยูเรนัสนั้นแปลกมาก
ศูนย์กลางของมันไม่ได้อยู่กลางดวงและเอียงเกือบ 60 องศากับแกนหมุน
ซึ่งอาจจะเกิดจากการหมุนที่ต่างกันที่ความลึกต่างๆภายในดาวยูเรนัส
สนามแม่เหล็กนี้เกิดจากการเคลื่อนที่ของของเหลวที่เป็นสารตัวนำภายในดาว
และต้องมีแหล่งพลังงานภายในด้วย
ดาวยูเรนัสบางครั้งอาจจะมองเห็นด้วยตาเปล่าในคืนที่ฟ้าใส
ถ้าใช้กล้องสองตาก็จะเห็นได้ง่ายขึ้นถ้ารู้ตำแหน่งของมัน
ถ้าเป็นกล้องดูดาวขนาดเล็กจะเห็นเป็นแผ่นกลมเล็กๆ
ในอินเตอร์เน็ตมีหลายเวปไซต์ที่มีรูปแสดงตำแหน่งของดาวยูเรนัสและดาวเคราะห์ดวงอื่น
หรืออาจใช้โปรแกรมแผนที่ดาวเช่น Skychart III , HnSky เป็นต้น
ภาพถ่ายดวงจันทร์ขนาดใหญ่ทั้ง 5 ดวง คือ มิรันดา, เอเรียล, อุมเบรียล, ไททาเนียและโอเบรอน
สารานุกรมดาราศาสตร์ออนไลน์ล่าสุด