วันจันทร์ ที่ 16 มีนาคม 2552
Posted by
Duplex , ผู้อ่าน : 18136
, 09:36:59 น.
หมวด : การศึกษา
พิมพ์หน้านี้
โหวต
0
คน
80 นิทานไทย
ผู้เขียนขอประชาสัมพันธ์บทความการศึกษาตามอัธยาศัย
ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
ได้จัดประชุมผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งออกแบบสอบถาม
จนได้กำหนดคุณธรรมขั้นพื้นฐานสำหรับนักเรียน นักศึกษา รวม 8 ประการ ประกอบด้วย 1.มีวินัย
2.มีน้ำใจ 3.ซื่อสัตย์
4.ขยัน 5.ประหยัด
6.สุภาพ 7.สะอาด และ
8.สามัคคี นอกจากนี้ ยังให้มีคุณลักษณะสำคัญ 3
ประการ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
ได้แก่ ความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันความเสี่ยง รวมเป็นคุณธรรม
11 ประการ กระทรวงจัดทำโครงการสร้างเสริมคุณธรรมโดยยึดแนวทางหลัก 4
ประการ คือ 1) สร้างสังคมสมานฉันท์
ให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้
2) อยู่อย่างสันติวิธี มีความสุขเอื้ออาทร
3) ปฏิบัติตามวิถีประชาธิปไตย
เคารพสิทธิซึ่งกันและกัน
4)
ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อใช้ชีวิตที่สมดุล
แนวคิดในการอบรมสั่งสอนสร้างเสริมคุณธรรมด้วยนิทานจึงได้เกิดขึ้น
เพราะนิทานเป็นเรื่องเล่าที่สืบทอดมาแต่โบราณ
จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการพาเด็กไปสู่โลกกว้างของการเรียนรู้ชีวิตจริง
เป็นตัวบ่มเพาะทางศีลธรรม เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ
ถือเป็นต้นแบบที่ดีงามตามวิธีคิดแบบไทยๆ จนทำให้เกิดการค้นหา 80 นิทาน สร้างสรรค์คุณธรรม
โดยมุ่งหวังว่านิทานจะคืนคุณธรรมให้แก่แผ่นดิน
การคัดเลือกนิทาน
ได้คัดสรรจากนิทานที่มีคุณสมบัติในอันที่จะสร้างความประทับใจและกินใจ
ให้เด็กเกิดความรู้สึกอยากปฏิบัติตาม
จึงถือเป็นสายพานแห่งคุณธรรมตามที่ต้องการ และต่อไปนี้คือตัวอย่างนิทาน
11 เรื่องที่ผ่านการพิจารณาของผู้ทรงคุณวุฒิ
ซึ่งตรงกับการสร้างคุณธรรม 11 ประการดังกล่าว
1. คติธรรม
การรักษาวินัย จากนิทาน
*เรื่องจันทโครพ*
: จันทโครพเจ้าชายเมืองพาราณสีออกแสวงหาพระอาจารย์
และได้เรียนรู้จนสำเร็จวิชาอันแกร่งกล้า จึงเดินทางกลับเมือง
ในระหว่างทางพระองค์ได้เปิดผอบที่พระอาจารย์มอบให้นำกลับเมืองและกำชับให้เปิดเมื่อถึงเมืองแล้ว
แต่จันทโครพไม่รักษาวินัย รักษาคำมั่นที่ให้ไว้
เมื่อผอบเปิดจันทโครพได้พบกับนางโมราสาวงาม
ซึ่งเป็นต้นเหตุให้พระองค์ต้องตายเพราะมือโจรในที่สุด
*คติเตือนใจคือ*
ควรรู้จักยับยั้งความอยากรู้อยากเห็น มีวินัยต่อตนเอง
ช่วยไม่ให้เกิดภัยพิบัติได้
2. คติธรรม
ความมีน้ำใจ จากนิทาน
*เรื่องชาวนากับงูเห่า* : ในเช้าของฤดูหนาววันหนึ่ง ชาวนาผู้หนึ่งเดินออกจากบ้านไปทุ่งนา
ระหว่างทางเห็นงูเห่าตัวหนึ่งนอนขดตัวอยู่ เกิดความรู้สึกสงสาร
จึงเก็บงูตัวนั้นมากอดไว้ในอ้อมแขน
เมื่องูรู้สึกอบอุ่นก็เคลื่อนไหวและฉกกัดชาวนาด้วยเป็นสัตว์เดียรัจฉาน
ชาวนาจึงสิ้นใจตาย *คติเตือนใจคือ*
ความมีน้ำใจเป็นสิ่งดี หากทำคุณกับคนชั่วมีแต่จะได้รับความเดือดร้อน
3. คติธรรม
ความซื่อสัตย์
จากนิทาน *เรื่องคนตัดไม้กับเทพารักษ์* : คนตัดไม้คนหนึ่งนั่งร้องไห้
อยู่ริมลำธาร เพราะทำขวานของตนเองตกลงไปในน้ำ
เทพารักษ์สงสารจึงปรากฏกายช่วยเหลือ โดยครั้งแรกงมขวานทองคำ
ครั้งที่สองงมขวานเงินขึ้นมาให้ คนตัดไม้นั้นเป็นคนซื่อสัตย์จึงปฏิเสธว่า
ไม่ใช่ขวานของตน จนเทพารักษ์งมขวานเหล็กขึ้นมา เขาจึงยอมรับ
เทพารักษ์ตอบแทนความซื่อสัตย์ด้วยการมอบขวานทองคำและเงินให้ด้วย
เพื่อนบ้านคนหนึ่งทราบเรื่อง เกิดความละโมบ จึงไปที่ลำธารและทำขวานหล่น
แต่ด้วยความไม่ซื่อสัตย์ ทำให้เขาไม่ได้ขวานคืนแม้กระทั่งขวานของตนเอง
*คติเตือนใจคือ*
จงซื่อสัตย์และจงพอใจในสิ่งที่เป็นของตน ไม่โลภมาก
4. คติธรรม ความขยัน
จากนิทาน *เรื่องขุมทรัพย์ในไร่องุ่น* : ที่ไร่องุ่นแห่งหนึ่ง
มีพ่อผู้สูงอายุกับลูกชายจอมขี้เกียจ 3 คนอาศัยอยู่
ต่อมาพ่อล้มป่วยลงและก่อนที่แกใกล้จะสิ้นลมหายใจ ได้เรียกลูกชายทั้ง 3
มาสั่งเสียว่า อย่าขายที่ดิน
เพราะพ่อได้ซ่อนขุมทรัพย์มหาศาลเอาไว้ ให้ขุดดินพรวนดิน
ขุดหาให้ทั่วทุกตารางนิ้วของไร่ เมื่อพ่อได้สิ้นใจตายลงไปแล้ว ลูกชายทั้ง
3 ก็ลงมือและตั้งหน้าตั้งตาไถคราดพรวนดิน
พวกเขาก็ไม่พบแม้แต่เศษเงินอย่างที่พ่อได้บอกไว้
หนึ่งปีผ่านไปไร่องุ่นที่พวกเข้าตั้งหน้าตั้งตาขุดพรวนดินเพื่อหาขุมทรัพย์นั้นกลับเกิดผล
ออกดอกออกผลออกมา และเมื่อเป็นเช่นนั้นลูกชายทั้ง 3 จึงหันมาช่วยกันนำผลองุ่นเหล่านั้นออกขาย
และพวกเขารู้ว่าขุมทรัพย์ที่พ่อพูดถึงนั้น หมายถึงการทำงานหนัก ขยันขันแข็ง
เอาหยาดเหงื่อแรงงานเข้าแลกในที่ดินที่พ่อของพวกเขาได้ทิ้งไว้ให้มากกว่านั่นเอง
*คติเตือนใจคือ*
ความขยันทำให้ทำงานสำเร็จ
5. คติธรรม
การประหยัด จากนิทาน
*เรื่องคนขี้เหนียวกับทองคำ* : เศรษฐีคนหนึ่งเป็นคนขี้เหนียว
เขามักนำทรัพย์สมบัติฝังดินไว้รอบบ้าน ไม่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
ด้วยความกลัวคนขโมย
ต่อมาเขาจึงได้นำทรัพย์สมบัติไปขายแล้วซื้อเป็นทองคำได้หนึ่งแท่ง
นำมาฝังไว้หลังบ้าน เฝ้าดูทุกวัน คนใช้เห็นจึงแอบดูและขโมยไป
เศรษฐีต้องเสียใจเพราะเสียทรัพย์ที่ตนเก็บเอาไว้ *คติเตือนใจคือ*
การมีทรัพย์และประหยัดออมทรัพย์เป็นสิ่งที่ดี
แต่ต้องรู้จักประมาณการใช้ทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ด้วย
6. คติธรรม ความสุภาพ
จากนิทาน *เรื่องพิกุลทอง* : หญิงหม้ายคนหนึ่งมีลูกสาว 2 คน คนโตชื่อ
มะลิ คนที่สองชื่อพิกุล หญิงหม้ายนั้นรักมะลิมาก
เพราะมีรูปร่างหน้าตาและนิสัยเหมือนนาง ส่วนพิกุลเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสะสวย
กิริยามารยาทดี พูดจาไพเราะและน้ำใจงาม
พิกุลต้องทำงานหนักเนื่องจากความลำเอียงของมารดา แต่ด้วยความมีน้ำใจต่อคนอื่น
ทำให้พิกุลได้รับพรจากรุกขเทวดาให้มีดอกพิกุลทองร่วงออกมาจากปากทุกครั้งที่พูด
หญิงหม้ายมีความละโมบได้บีบคั้นให้พิกุลทองพูดเพื่อเอาทองคำ
และให้มะลิไปขอพรรุกขเทวดา
แต่มะลิมีนิสัยหยาบช้าจึงได้รับผลตรงกันข้ามกับพิกุล
พิกุลถูกมารดาทำร้ายต้องหนีออกจากบ้าน
ได้พบกับเจ้าชายรูปงามและครองคู่กันต่อมาอย่างมีความสุข
*คติเตือนใจคือ*
ความมีน้ำใจและความสุภาพเป็นเครื่องผูกมิตรต่อผู้อื่น
7. คติธรรม ความสะอาด
จากนิทาน *เรื่องนางอุทัยเทวี* : อุทัยเทวีเป็นธิดาของรุกขเทวดาและนางนาค
นางต้องพลัดมาอยู่บนโลกมนุษย์ จึงปกป้องตนเองด้วยการอาศัยอยู่ในร่างของคางคก
ต่อมาตายายได้มาพบ นางจึงขอไปอาศัยอยู่ด้วย
อุทัยเทวีช่วยเหลือตอบแทนตายายที่เลี้ยงดูตนเองโดยออกมาจากร่างคางคก
และทำงานต่างๆ ในบ้าน จนบ้านเรือนสะอาดเรียบร้อย
อุทัยเทวีเติบโตเป็นสาวสวยงาม เจ้าชายสุทราชกุมารได้พบกับนางก็หลงรัก
และให้พระราชบิดามาสู่ขอ ตายายได้ขอให้สร้างสะพานทองจากพระราชวังมาถึงบ้าน
ทำให้พระราชากริ้วมากและตรัสให้ตายายสร้างปราสาทหลังใหญ่ให้เสร็จภายใน
7 วัน เช่นกัน
อุทัยเทวีได้เนรมิตปราสาทและเจ้าชายได้ตั้งจิตอธิษฐานขอสะพานทองจากเทวดา
ในที่สุดทุกอย่างก็จบลงด้วยความสุข *คติเตือนใจคือ*
การประพฤติตนเป็นคนดี ขยัน กตัญญูส่งผลให้ได้รับผลบุญที่ดี
8. คติธรรม
ความสามัคคี จากนิทาน
*เรื่องนกกระจาบ* : นกกระจาบฝูงหนึ่งถูกนายพรานใช้ตาข่ายจับไป
หัวหน้านกกระจาบและนกที่เหลือได้หาวิธีเพื่อให้รอดพ้นจากตาข่าย
เมื่อฝูงนกถูกนายพรานดักจับ ได้ใช้กลวิธีความสามัคคี
ทำให้รอดพ้นจากตาข่ายนายพรานได้อย่างปลอดภัย
*คติเตือนใจคือ* คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย
สามคนกลับบ้านได้
9. คติธรรม
ความพอประมาณ จากนิทาน
*เรื่องหมากับเงา* : หมาหิวโซตัวหนึ่งแย่งก้อนเนื้อชิ้นหนึ่งมาจากหมาซึ่งตัวเล็กกว่า
มันคาบก้อนเนื้อนั้นมาถึงลำธารแห่งหนึ่ง
ขณะที่มันเดินข้ามสะพานมองลงไปในน้ำก็เห็นเงาของหมาตัวใหญ่ตัวหนึ่งคาบก้อนเนื้อขนาดใหญ่ไว้ในปาก
จึงเกิดความโลภคายก้อนเนื้อและกระโดดลงไปในน้ำหมายจะแย่งเนื้อจากหมาที่เห็นในน้ำซึ่งใหญ่กว่า
ผลที่สุดหมาตัวนี้ก็ต้องอดโซต่อไป *คติเตือนใจคือ*
จงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ โลภมากลาภหาย
10. คติธรรม
ความมีเหตุผล จากนิทาน
*เรื่องสังข์ทอง* : รจนาเป็นธิดาองค์สุดท้องในจำนวนพระธิดาเจ็ดองค์ของท้าวสามล
พระธิดาหกองค์ได้เลือกคู่ครองที่เป็นเจ้าชายเหมาะสมกับแต่ละคนแล้ว
แต่รจนากลับมองเห็นรูปทองภายในของเจ้าเงาะรูปชั่วตัวดำ
จึงเลือกเจ้าเงาะด้วยเหุตผลเป็นคนดี
ท้าวสามลกริ้วมากจึงขับไล่ให้นางรจนาไปอยู่กระท่อมปลายนากับเจ้าเงาะ
พระอินทร์ได้แปลงกายมาประลองตีคลีเอาเมืองกับท้าวสามล
เขยทั้งหกไม่สามารถสู้รบกับพระอินทร์ เจ้าเงาะต้องถูกเกณฑ์ไปและมีชัยชนะ
ทุกคนจึงได้ทราบความจริงว่า เงาะรูปชั่วตัวดำคือเจ้าชายสังข์ทอง
*คติเตือนใจคือ*
อย่ามองผู้อื่นหรือตัดสินผู้อื่นแต่เพียงภายนอก
จงตริตรองด้วยเหตุผล
11. คติธรรม
มีภูมิคุ้มกันความเสี่ยง จากนิทาน
*เรื่องมดง่ามกับจักจั่น* : ในฤดูฝน จักจั่นผอมโซเพราะเกียจคร้านตัวหนึ่งมาขออาหารมดง่าม
ซึ่งขยันขันแข็งเก็บสะสมอาหารที่หาไว้ในช่วงฤดูร้อน
จักจั่นตัวนั้นนอกจากไม่ได้อาหารจากมดง่ามแล้วยังถูกตำหนิว่ากล่าวให้อับอายอีกด้วย
*คติเตือนใจคือ*
ความขยันหมั่นเพียร
ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันความเสี่ยงในการดำเนินชีวิต
ทั้งนี้
ตามแผนงานการอบรมสั่งสอนสร้างเสริมคุณธรรมด้วยนิทานดังกล่าว
มีเป้าหมายของงานจะต้องได้นิทานรวม 80 เล่ม
รวมถึงนิทานท้องถิ่นและนิทานที่เกิดใหม่
ซึ่งจะต้องคัดเลือกเพิ่มเติมอีกจากการระดมผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักพิมพ์ นักอ่าน
นักเขียน นักวิชาการ และครูอาจารย์
เพื่อร่วมเฉลิมฉลองปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา
การรวม 80 เรื่องใน 1 เล่มนี้ก็เพื่อความสะดวกในการจัดส่งไปยังห้องสมุดทั่วประเทศ
และยังจะนำเสนอในเว็บ www.moe.go.th และ
www.sema.go.th เพื่อให้นักเรียน ครูอาจารย์ และผู้ปกครองได้ Download
และได้จัดทำเป็น e-book เพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้ผ่านโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย
ใครที่ยังไม่ได้อ่านก็ไปอ่านดูเสียนะ....
ขอเรียนเชิญผู้สนใจค้นหาเก็บไว้เพื่อใช้ประโยชน์ตามต้องการ
|