|
ปรัชญาจีน
181.11น346ป
ปรัชญาจีน
ผู้แต่ง: น้อย พงษ์สนิท
ชื่อเรื่อง: ปรัชญาจีน
สรุปเนื้อหา
หนังสือ "ปรัชญาจีน" เล่มนี้บทที่ 1 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์โดยย่อจะมีความมุ่งหมายอยู่ที่ต้องการให้ผู้ศึกษาได้รู้แนวโน้มทางปรัชญาของแต่ละสมัย
ตลอดจนวิวัฒนาการและการแปรเปลี่ยนโยยึดหลักราชวงศ์ต่างๆ ที่ปกครองประเทศจีนเป็นแนวทาง ทั้งนี้เพราะปรัชญาจีนมิได้แยกตัวเองออกต่างหากจากแนวคิดทางการปกครอง
สิ่งหนึ่งที่มีบทบาทต่อวัฒนธรรมของจีนอยางมากคือ ลัทธิปรัชญาซึ่งเป็นทรรศนะของนักปราชญ์ (Sage) จีนในอนาคต เป็นที่สนใจทั้งต่อชาวจีนและชาวต่างชาติ มีอิทธิพลต่อ
ทัศนคติและการครองชีวิตของชนชาติเหล่านี้มิใช่น้อย อิทธิพลของปรัชญาจีนแพร่หลายออกไปในแถบเอเชียตะวันออก
บทที่2 ปรัชญาสมัยโปราณ ความหมาย ลักษณะ และจุดมุ่งหมาย ของปรัชญาจีน คำว่าปรัชญาโดยความหมายในปรัชญาจีน ความรู้ซึ่งเป้นสัมฤทธิผลของการคิด
ไตร่ตรองตามหลักเหตุผลและเป็นอุปกรณ์ อันจะก่อให้เกิดในชีวิตนี้ และสังคมนี้นักปรัชญาจีนไม่มีค่านิยมแนวทางที่ว่า จลแสวงหาความรุ้เพื่อความรู้แต่ควมรู้นั้นจะต้องนำมาเป้น
หลักปฎิบัติเพื่อก้าวเข้าสู่อุดมคติอันสูงของชีวิต
บทที่ 3 ปรัชญาจีนยุคฟื้นฟู ลัทธิเต๋าใหม่ โดยลักษณะทางปรัชญา เต๋ายุคใหม่แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม
1. กล่มนิยมเหตุผล ( The Rationalis)
2. กลุ่มนิยมแรงผลักไสบริสุทธิ์ ( The Sentimentalist)
กลุ่มนิยมเหตุผล
นักปราชณ์ที่จัดว่าเป็นตัวแทนของกลุ่มนี้คือ เกาเซียง และเซียงฮุ้ย ในกลุ่มนี้มีทรรศนะทางปรัชญา
บทที่ 4 สถานภาพและบทบทาของปรัชญาในอารยธรรมจีน สถานภาพของปรัชญาจีนกล่าวได้ว่า มีบทบาทต่ออารยธรรมจีนเป็นอย่างมาก เปรียบได้กับศาสนา
มีบทบาทอารยธรรมของชนชาติอื่นๆ
บทที่ 5 ความเปลี่ยนแปลง นับตั้งแต่ การเกิดขึ้นของปรัชญาที่เรียกว่า ปรัชญาขงจื้อยุคใหม่ ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ซึ่งก็คือ ชื่อที่ใช้เรียก ปรัชญาขงจื้อ ที่เปลี่ยนแปลง
มาในช่วงราชวงศ์ซ้อง ราชวงศ์เหม็งและราชวงศ์ชิง
ขงจื้อได้สอนปรัชญาทั้งทางสังคมและการปกครองเพื่อจุดหมายคือ การเพิ่งพูนความรู้ความมีจิตใจซื่อตรง ความรับผิดชอบในหน้าที่ การสร้างสรรค์ ชีวิตส่วนตัว
การจัดระเบียบของสังคม ต่อมา ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 พวกขลจื้อยุคใหม่ได้แปรเปลี่ยนปรัชญาซึ่งมีลักษณะเป็นปรัชญาทางสังคม การปกครอง ให้กลายป็นอภิปรัชญา แบบ
อัตวิสัย และเก็งความจริง
ที่มา :
น้อย พงษ์สนิท. (2533).
ปรัชญาจีน. กรุงเทพฯ:
โอ.เอส.พริ้นติ้ง เฮ้าส์, หน้า 152.
|
|