|
รวมเรื่องบทความจากวารสาร/ นิตยสาร
วิฑูรย์ ลิมปสุรัติ
กอดครั้งสุดท้าย
...
ชีวิตวัยเด็กของผมเติบโตมาจากครอบครัวคนจีน ซึ่งมีการเลี้ยงดูค่อนข้างหัวโบราณ การกอดกันถือว่าเป็นเรื่องไม่ปกติ การ
แสดงออกของความรักก็เป็นแบบผิวเผิน
ความเป็นอยู่ก็เหมือนครอบครัวโดยทั่วไป ที่มีคุณพ่อทำหน้าที่หลักในการหาเลี้ยงครอบครัว โดยท่านทำธุรกิจออกแบบตกแต่งเฟอร์นิเจอร์
ต้องอยู่กับภาวะฝุ่นและสารพิษมาโดยตลอด และตัวท่านเองก็สูบบุหรี่จัดมาก
ด้วยหน้าที่การงานที่ค่อนข้างหนักจึงไม่ค่อยมีเวลาสำหรับลูกๆ ตั้งแต่ผมจำความได้ ผมและพ่อไม่เคยกอดกันสักครั้ง แต่ไม่ใช่ความผิดของพ่อ
เพราะผมก็ยังเป็นคนดีของสังคมจากการเลี้ยงดูของท่าน จนผมเติบโตมีชีวิตครอบครัวเป็นของตัวเอง ผมทุ่มเทเวลาให้กับครอบครัว
และการทำงานจนละเลยเอาใจใส่สุขภาพคุณพ่อไปบ้าง
จนคุณพ่อของผมเริ่มป่วยเป็นมะเร็ง โดยเริ่มจากที่ปอด เพราะท่านสูบบุหรี่จัดและทำงานหนัก มะเร็งค่อยๆกัดกินชีวิตท่านไปเรื่อยๆจนกระจายไปทั่วทั้งตัว
และเข้าทำลายระบบประสาท จนกระทั่งท่านขยับตัวและพูดไม่ได้
ท่านนอนอยู่ตรงนี้ นอนให้ผมบรรจงเช็ดตัวให้ รอให้ผมกอด แต่ผมไม่กล้า มันอึดอัด ทั้งๆที่ใจของผมอยากจะกอดท่านให้แน่นๆ
ให้ท่านรับรู้ถึงความรักที่มีต่อท่าน แต่ผมก็ขลาดกลัวต่อความรู้สึกตัวเองเกินไป
ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือ พ่อของผมคนเดิมที่นอนอยู่บนเตียงเดิม แต่มีทั้งเครื่องช่วยหายใจ เครื่องมือแพทย์มากมายที่คอยช่วย
ประคองลมหายใจที่เริ่มแผ่วพลิ้วไว้ แต่เวลานั้นคุณพ่อไม่รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวรอบๆตัวแล้ว และสิ่งที่ผมอยากจะทำมากที่สุดคือการกอดท่านไว้นั้น
ก็คงไม่มีผล เพราะท่านคงไม่อาจรับรู้ถึงสัมผัสที่อบอุ่นได้อีกต่อไป จนลมสุดท้ายของชีวิตหมดลงอย่างสงบ ท่านจากไปแล้ว
ผมยังรู้สึกเสียใจมาจนทุกวันนี้ ทำไมผมถึงไม่กอดท่าน ทำไมไม่ถ่ายทอดความรักที่ผมมีต่อท่านด้วยการกอด และวันนี้ผมไม่มี
โอกาสได้มอบอ้อมกอดให้ท่านอีกแล้ว
ที่มา
วิฑูรย์ ลิมปสุรัติ. (2545). กอดครั้งสุดท้าย.
ชีวจิต, 5(98), 63.
|
|