|
หน่วยที่ 7
การจัดการความรู้ในชีวิตประจำวัน
ผศ.ดร.ไพโรจน์ ชลารักษ์
ชีวิตประจำวันของบุคคลทุกคนต้องเผชิญกับปัญหา และต้องแก้ไขหรือขจัดปัญหาให้ได้ จึงจะดำรงชีวิตอยู่ได้และหากแก้ปัญหาได้สำเร็จอย่างราบรื่นเรียบร้อยการดำรงชีวิตจึงจะมีความสุข หากวันใดมีปัญหาที่แก้ไม่ได้หรือแก้ไขได้ไม่สำเร็จลุล่วงอย่างราบรื่นเรียบร้อยชีวิตก็จะเกิดความทุกข์กังวล เมื่อมีปัญหาแก้ไขไม่ได้บ่อย ๆ หลาย ๆ เรื่องติดต่อกัน ความกังวลก็จะต่อเนื่องเป็นเวลานาน ความทุกข์กังวลแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเกิดการสะสมนานเข้าก็เป็นปัญหาใหญ่เป็นความเครียด ชีวิตก็จะมีทุกข์อย่างสิ้นเชิง
หากไม่ต้องการให้ชีวิตมีความทุกข์ความกังวล และสะสมจนเป็นความเครียดก็ต้องหาทางแก้ไขปัญหาให้ได้สำเร็จทุก ๆ วัน การแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันจึงเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญที่ต้องเอาใจใส่อย่างจริงจัง และการที่จะแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันให้ได้สำเร็จ บังเกิดผลดีก็ต้องอาศัยวิธีการจัดการความรู้ที่ดีด้วย
7.1 ชีวิตประจำวันกับปัญหา
ทำไมชีวิตจึงมีปัญหา อาจเป็นคำถามที่ใคร ๆ มักถามหรือสงสัย การตอบคำถามนี้ก็ต้องจัดการแสวงหาความรู้มาอธิบายหรือตอบก่อนว่าปัญหาหมายถึงอะไร หรือปัญหาคืออะไร แล้วจึงเชื่อมโยงต่อมาว่าปัญหามาปรากฏหรืออยู่ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร
ปัญหาคือความขัดแย้งไม่ลงตัวกันหรือไม่ลงรอยกันของสองสิ่งซึ่งอาจเป็นรูปธรรมก็ได้นามธรรมก็ได้ ตัวอย่างเช่น บางคนอยากได้แหวนเพชร แต่ไม่มีเงินซื้อ ก็เป็นปัญหาของคนนั้นเพราะความไม่สอดคล้องลงรอยกันระหว่างความต้องการกับเงินที่มีอยู่ หากคนใดมีเงินมากพอ และอยากซื้อแหวนเพชร เขาก็สามารถซื้อได้โดยไม่เป็นปัญหาและก็ไม่ทำให้เกิดความเครียด คนไทยที่ไม่รู้ภาษาต่างประเทศเมื่อได้มีโอกาสพบปะคนต่างชาติต่างภาษา อยากเสวนาพูดคุยด้วยแต่ทำไม่ได้ก็เป็นปัญหาเพราะความไม่ลงรอยกันระหว่างความรู้ความสามารถด้านภาษากับความต้องการสนทนากัน หรืออีกตัวอย่างหนึ่งบางคนอยากกินข้าวหลามแต่ร้านค้าหรือบริเวณนั้นไม่มีข้าวหลามขายก็เป็นปัญหา ไม่ลงรอยกันระหว่างความอยากกินกับสิ่งที่อยากกินไม่มีให้กินดังนี้เป็นต้น
หากพิจารณาตัวอย่างดังกล่าวข้างต้นจะพบว่าชีวิตประจำวันจะเผชิญเรื่องทำนองเดียวกันนี้มากมายตลอดทั้งวัน บางอย่างไม่เป็นปัญหาเพราะเราแก้ไขได้ เช่น ตื่นเช้าขึ้นมา อยากอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน ก็มีน้ำมีแปรงมีสบู่ และทุกอย่างที่ต้องการใช้ สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหาเพราะเรารู้ว่าเราต้องการใช้และเราได้ใช้ความรู้มาจัดการหาสิ่งที่ต้องการมาเตรียมไว้ก่อนแล้วได้ ถึงเวลาต้องการใช้จริงจึงได้ใช้และไม่เกิดเป็นปัญหาขึ้น ซึ่งแสดงว่าได้จัดการความรู้อย่างถูกต้องเหมาะสมแล้วแต่อาจเกิดปัญหาปัจจุบันขึ้นได้ เช่น เช้าวันหนึ่งน้ำประปาในห้องน้ำไม่ไหลไม่สามารถหา น้ำมาล้างหน้าแปรงฟันหรืออาบได้ ความไม่ลงรอยไม่สอดคล้องเกิดขึ้นก็จะเกิดเป็นปัญหาทันทีซึ่งผู้เผชิญปัญหาต้องใช้ความรู้แก้ไขเองอย่างเหมาะสม เช่นต้องไปตักน้ำจากบ่อน้ำ หรือโอ่งน้ำที่เป็นแหล่งน้ำสำรองนอกบ้านมาใช้แทน อย่างนี้ก็แสดงว่ามีความถูกต้องในการจัดการความรู้ คือควรคาดการณ์ล่วงหน้าถึงโอกาสขาดน้ำ และทำควรหาน้ำเก็บสำรองน้ำไว้ใช้ยามฉุกเฉินเมื่อเกิดเหตุจริงก็แก้ปัญหาได้
ตัวอย่างที่ยกมากล่าวถึงจึงสรุปยืนยันว่าชีวิตประจำวันของคนเต็มไปด้วยปัญหาและการที่เราจะรู้สึกว่ามีปัญหาหรือไม่มีปัญหาก็เพราะเราได้ใช้ความรู้ที่มีอยู่จัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้มากหรือน้อยหรือมีประสิทธิภาพเพียงใดนั่นเอง
หน้าสารบัญ
ปรับปรุงล่าสุด วันที่ 28 พฤษภาคม 2551
รศ.ดร.จุมพจน์ วนิชกุล
chumpot@hotmail.com
|
|