สนุก! ค้นหาตรวจหวยข่าว อีเมล์ หาเพื่อนคิวคิว ฟังเพลง คลาสสิฟายด์ ริงโทน เล่นเกมส์ ดูทั้งหมด »
 
  เว็บไซต์    สารบัญเว็บไทย    หางาน   วิดีโอ    เพลง    ข่าว     ความรู้    ถามตอบ    ไฟล์ข้อมูล  
 
 
หาแบบละเอียด
ช่วยเหลือ


สนุก!ความรู้ > ห้องสมุดความรู้ > สารานุกรม > สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 3 > การชักลากไม้ด้วยช้างและสัตว์อื่นๆ
การชักลากไม้ด้วยช้างและสัตว์อื่นๆ  
 

 
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 3
 
การชักลากไม้ด้วยช้างและสัตว์อื่นๆ โดย นายอำนวย คอวนิช
          เนื่องจากช้างเป็นสัตว์พื้นบ้านของประเทศไทยและมีอยู่เป็นจำนวนมาก  ประกอบกับช้างเป็นสัตว์ที่ขึ้นเขาได้ดีและนำมาฝึกใช้งานได้ง่าย ดังนั้นช้างส่วนใหญ่ของประเทศไทย   จึงถูกนำมาฝึกใช้ในการชักลากไม้  ในการใช้ช้างลากไม้นั้น  ผู้ใช้ช้างจะต้องเรียนรู้ถึงธรรมชาติและนิสัยของช้างให้ดีด้วย (ดูเรื่องช้าง)   เพื่อมิให้ใช้ช้างจนเกินกำลัง  จะทำให้ช้างเจ็บป่วยและล้มตายง่าย โดยปกติช้างทำไม้เชือกหนึ่งๆ  จะใช้คนเกี่ยวข้อง  ๒ คน คือ  ควาญคอ  ซึ่งทำหน้าที่ขี่บังคับช้างให้ทำงานคนหนึ่ง และควาญตีน  ซึ่งเป็นผู้ช่วยทำหน้าที่ช่วยเหลืออยู่ข้างล่างอีกคนหนึ่ง ควาญตีนนั้น  นอกจากมีหน้าที่ช่วยเหลือควาญคอโดยทั่วไปแล้วยังมีหน้าที่ช่วยร้อยโซ่ลากเข้ากับจมูกซุง เพื่อให้ช้างชักลากหรือช่วยแก้โซ่ออกจากซุง เมื่อช้างลากไม้ไปถึงที่หมายแล้ว ในขณะช้างกำลังลากไม้ ควาญตีนจะทำหน้าที่เอาไม้ท่อนเล็กๆ ยาวประมาณ ๑ เมตร วางข้างหน้าไม้ซุงเพื่อให้ช้างชักลากไม้ซุงทับไปบนท่อนไม้เล็กๆ ที่วางไว้ไม้เล็กๆ นี้ เรียกว่า "โกลน" ทำหน้าที่เป็นลูกกลิ้งให้ช้างชักลากไม้ได้เบาแรงขึ้น ไม้ซุงที่ใช้ช้างชักลากจะต้องเจาะจมูกตรงด้านหัว เพื่อใช้สำหรับร้อยโซ่  และที่หน้าตัดของหัวซุงด้านติดกับพื้นดิน จะต้องใช้ขวานฟันให้เป็นรูปมน  เรียกว่า "การบืดหัวไม้" มีประโยชน์  คือ  กันไม่ให้หัวไม้ซุงครูดกับดินทำให้เบาแรงช้าง ช้างเชือกหนึ่ง สามารถจะลากไม้ซึ่งมีน้ำหนักไม่เกิน ๒ ตัน/๑   เที่ยว เนื่องจากไม้ที่ชักลากมีน้ำหนักมาก ดังนั้นผู้ทำไม้จึงมักจะกำหนดที่รวมไม้ไว้เป็นแห่งๆ  แต่ละแห่งมีระยะทางห่างกันไม่เกิน ๕๐๐ เมตร เพื่อให้ช้างได้มีโอกาสพักเหนื่อย   ระยะทางชักลากซึ่งกำหนดไว้สำหรับช้างพักเหนื่อยนี้เรียกกันในภาษาทำไม้ว่า  "ท้อก"  เช่น  ระยะทางชักลาก  ๑ กิโลเมตร อาจจะมี  ๒ ท้อก   ถ้าไม้ที่ช้างชักลาก มีขนาดใหญ่เกินกำลังที่ช้างตัวเดียวจะลากได้  อาจใช้ช้างหลายตัวเข้าช่วยกัน ซึ่งอาจทำได้หลายวิธีเช่น การติดคู่ คือ ใช้ช้าง ๒ เชือก ช่วยกันลากเป็นแถวหน้ากระดาน เหมาะสำหรับภูมิประเทศ  ซึ่งเป็นที่ราบกว้างพอที่ช้าง  ๒ เชือกจะเดินคู่กันได้  การติดสร้อยคือ การใช้ช้าง ๒ เชือกเรียงตามกัน ตัวหนึ่งอยู่ข้างหน้าอีกตัวหนึ่งอยู่ข้างหลังช่วยกันลากไม้   ซึ่งเหมาะสำหรับการลากไม้ในทางแคบ ๆ การลากไม้วิธีนี้มีกฎอยู่ว่า ช้างเชือกหลังจะต้องไม่ใช้ช้างงา เพราะเกรงว่า งาของช้างตัวหลังจะไปทิ่มแทงช้างตัวหน้าเมื่อโซ่ลากขาดลง การติดเทียม คือ การใช้ช้าง ๒ ตัวช่วยกันลากไม้ท่อนเดียว  แต่ตัวหนึ่งลากหัวซุง  อีกตัวหนึ่งลากท้ายซุง ไปทางทิศเดียวกัน โดยให้ไม้ซุงอยู่ทางด้านข้างของช้างด้านเดียวกัน วิธีนี้เหมาะสำหรับลากไม้บนไหล่เขา   ให้ช้างอยู่ทางด้านชิดเขา  ส่วนไม้ซุงอยู่ทางด้านนอก 
          งานชักลากไม้นี้เป็นงานที่หนักมาก จึงใช้ช้างทำงานเฉพาะตอนเช้าตั้งแต่ ๖.๐๐ น. ถึงเที่ยงวัน  ตอนบ่ายหยุดงาน และเมื่อใช้ช้างทำงานติดต่อกัน ๓ วันแล้วจะต้องให้หยุดพักผ่อน ๑ หรือ ๒ วันด้วย นอกจากนั้นในฤดูร้อนช้างจะหยุดทำงานเพื่อพักผ่อนอีกเป็นเวลา  ๓ เดือน จะเห็นได้ว่า เวลาทำงานของช้างมีน้อย  จึงมีผลงานของช้างแต่ละเชือก จากการชักลากไม้ในป่า ที่มีสภาพยาก ง่าย ปานกลางเพียงปีละประมาณ  ๔๕๐  ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ซึ่งมีผลงานต่ำกว่าการใช้เครื่องจักรกลมาก แต่การทำไม้ด้วยช้างก็ยังเป็นของจำเป็นสำหรับประเทศไทยอยู่ เพราะประเทศเรามีช้างมาก  ช้างแต่ละเชือกมีบุคคลเกี่ยวข้องหลายคน เช่น ควาญคอ   ควาญตีน และเจ้าของ ฉะนั้นการที่ปล่อยให้ช้างไม่มีงานทำ ก็พลอยทำให้บุคคลเป็นจำนวนมากไม่มีงานทำไปด้วย และจะมีผลเกี่ยวข้องไปถึงเศรษฐกิจของชาติ  อีกประการหนึ่ง การทำไม้ด้วยช้างเป็นศิลปะประจำชาติไทย และมีเพียง ๒-๓ ประเทศในเอเชียเท่านั้น  ที่ใช้ช้างทำไม้ ดังนั้น จึงควรจะรักษาศิลปะอันนี้ไว้ให้ยืนนานตลอดไป การทำไม้ด้วยช้างมีส่วนดีในข้อที่ว่าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตัดถนนเข้าไปชักลากไม้ นอกจากนั้น  ช้างยังสามารถหลีกเลี่ยงการทำลายต้นไม้เล็ก ๆ ซึ่งจะเติบโตต่อไปภายหน้าได้ดีกว่าการใช้เครื่องจักรกล ประการสำคัญ คือ ไม่มีค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าเชื้อเพลิงและค่าเครื่องอะไหล่ ส่วนผลเสียก็มีอยู่ว่า ทำไม้ได้น้อย ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงและเคลื่อนที่ได้ช้า ไม่สามารถเร่งงานได้ตามความจำเป็น  ซึ่งเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ ถ้ามีการวางแผนการล่วงหน้าไว้อย่างถูกต้อง
          ในประเทศไทยการใช้สัตว์อื่นชักลากไม้แทนช้างก็มีบ้าง โดยมากมักจะใช้วัวหรือควายลากไม้ซุงท่อนเล็ก ๆ โดยให้หัวไม้ซุงพาดบน "เลื่อน" ซึ่งทำด้วยไม้แล้วใช้วัวหรือควายลากเลื่อนนั้น ถ้าเป็นไม้ซุงท่อนโตก็ให้วัวหรือควายหลายตัวผูกเรียงตามกันช่วยกันลาก  ปกติชาวบ้านมักจะใช้ควายในการลากไม้มากกว่าวัว  เพราะควายแข็งแรงกว่า ปัจจุบันนี้การใช้วัวควายลากไม้มีน้อยลงและหาดูได้ยาก

การบืดหัวไม้


ไม้ซุงที่บืดหัวไม้แล้ว ช่วยให้ช้างชักลากได้สะดวกและเบาแรง

[ดูภาพทั้งหมดในเรื่องนี้]

บรรณานุกรม
• นายอำนวย คอวนิช

[กลับหัวข้อหลัก]
 

บทความอื่น ๆ ของสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ  
 
บทความอื่น ของสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 3 สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มอื่น
การแบ่งชั้นฝ้าย
การป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูฝ้าย
การล่องแพ
การเลี้ยงวัวควาย
ข้อแนะนำในการพ่นสารเคมี
ธรรมชาติของช้าง
ประโยชน์ของข้าว
ประวัติฝ้าย
แมลงศัตรูข้าว
โรคที่เกิดจากเชื้อบัคเตรี
สารานุกรมไทย ฉบับกาญจนาภิเษก
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 5
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 11
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 13
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 15
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 16
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 20
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 21
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 24
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 26
   

ผู้สนับสนุน
สนใจลงโฆษณา คลิก!

สนุก!ความรู้ > ห้องสมุดความรู้ > สารานุกรม > สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 3 > การชักลากไม้ด้วยช้างและสัตว์อื่นๆ