• Duplex
  • ranking : สมาชิกทั่วไป
  • email : preeeecha@hotmail.com
  • วันที่สร้าง : 2008-01-07
  • จำนวนเรื่อง : 847
  • จำนวนผู้ชม : 1562056
  • จำนวนผู้โหวต : 862
  • ส่ง msg :
  • โหวต 862 คน
<< มีนาคม 2009 >>
อา พฤ
1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30 31        

[ Add to my favorite ] [ X ]



วันจันทร์ ที่ 16 มีนาคม 2552
Posted by Duplex , ผู้อ่าน : 18136 , 09:36:59 น.  
หมวด : การศึกษา

พิมพ์หน้านี้
โหวต 0 คน

80 นิทานไทย

ผู้เขียนขอประชาสัมพันธ์บทความการศึกษาตามอัธยาศัย 


           ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้จัดประชุมผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งออกแบบสอบถาม จนได้กำหนดคุณธรรมขั้นพื้นฐานสำหรับนักเรียน นักศึกษา รวม 8 ประการ ประกอบด้วย 1.มีวินัย 2.มีน้ำใจ 3.ซื่อสัตย์ 4.ขยัน 5.ประหยัด 6.สุภาพ 7.สะอาด และ 8.สามัคคี นอกจากนี้ ยังให้มีคุณลักษณะสำคัญ 3 ประการ
ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ ความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันความเสี่ยง รวมเป็นคุณธรรม 11 ประการ
กระทรวงจัดทำโครงการสร้างเสริมคุณธรรมโดยยึดแนวทางหลัก 4 ประการ คือ 1) สร้างสังคมสมานฉันท์ ให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้

 2) อยู่อย่างสันติวิธี มีความสุขเอื้ออาทร

3) ปฏิบัติตามวิถีประชาธิปไตย เคารพสิทธิซึ่งกันและกัน

 4) ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อใช้ชีวิตที่สมดุล 
           แนวคิดในการอบรมสั่งสอนสร้างเสริมคุณธรรมด้วยนิทานจึงได้เกิดขึ้น เพราะนิทานเป็นเรื่องเล่าที่สืบทอดมาแต่โบราณ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการพาเด็กไปสู่โลกกว้างของการเรียนรู้ชีวิตจริง เป็นตัวบ่มเพาะทางศีลธรรม เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ถือเป็นต้นแบบที่ดีงามตามวิธีคิดแบบไทยๆ จนทำให้เกิดการค้นหา 80 นิทาน สร้างสรรค์คุณธรรม โดยมุ่งหวังว่านิทานจะคืนคุณธรรมให้แก่แผ่นดิน

          
การคัดเลือกนิทาน ได้คัดสรรจากนิทานที่มีคุณสมบัติในอันที่จะสร้างความประทับใจและกินใจ ให้เด็กเกิดความรู้สึกอยากปฏิบัติตาม จึงถือเป็นสายพานแห่งคุณธรรมตามที่ต้องการ และต่อไปนี้คือตัวอย่างนิทาน 11 เรื่องที่ผ่านการพิจารณาของผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งตรงกับการสร้างคุณธรรม 11 ประการดังกล่าว

        
   1. คติธรรม การรักษาวินัย จากนิทาน *เรื่องจันทโครพ* : จันทโครพเจ้าชายเมืองพาราณสีออกแสวงหาพระอาจารย์ และได้เรียนรู้จนสำเร็จวิชาอันแกร่งกล้า จึงเดินทางกลับเมือง ในระหว่างทางพระองค์ได้เปิดผอบที่พระอาจารย์มอบให้นำกลับเมืองและกำชับให้เปิดเมื่อถึงเมืองแล้ว แต่จันทโครพไม่รักษาวินัย รักษาคำมั่นที่ให้ไว้ เมื่อผอบเปิดจันทโครพได้พบกับนางโมราสาวงาม ซึ่งเป็นต้นเหตุให้พระองค์ต้องตายเพราะมือโจรในที่สุด
*คติเตือนใจคือ* ควรรู้จักยับยั้งความอยากรู้อยากเห็น มีวินัยต่อตนเอง ช่วยไม่ให้เกิดภัยพิบัติได้

           2. คติธรรม ความมีน้ำใจ จากนิทาน *เรื่องชาวนากับงูเห่า* : ในเช้าของฤดูหนาววันหนึ่ง ชาวนาผู้หนึ่งเดินออกจากบ้านไปทุ่งนา ระหว่างทางเห็นงูเห่าตัวหนึ่งนอนขดตัวอยู่ เกิดความรู้สึกสงสาร จึงเก็บงูตัวนั้นมากอดไว้ในอ้อมแขน เมื่องูรู้สึกอบอุ่นก็เคลื่อนไหวและฉกกัดชาวนาด้วยเป็นสัตว์เดียรัจฉาน ชาวนาจึงสิ้นใจตาย *คติเตือนใจคือ* ความมีน้ำใจเป็นสิ่งดี หากทำคุณกับคนชั่วมีแต่จะได้รับความเดือดร้อน

           3. คติธรรม ความซื่อสัตย์ จากนิทาน *เรื่องคนตัดไม้กับเทพารักษ์* : คนตัดไม้คนหนึ่งนั่งร้องไห้ อยู่ริมลำธาร เพราะทำขวานของตนเองตกลงไปในน้ำ เทพารักษ์สงสารจึงปรากฏกายช่วยเหลือ โดยครั้งแรกงมขวานทองคำ ครั้งที่สองงมขวานเงินขึ้นมาให้ คนตัดไม้นั้นเป็นคนซื่อสัตย์จึงปฏิเสธว่า ไม่ใช่ขวานของตน จนเทพารักษ์งมขวานเหล็กขึ้นมา เขาจึงยอมรับ เทพารักษ์ตอบแทนความซื่อสัตย์ด้วยการมอบขวานทองคำและเงินให้ด้วย เพื่อนบ้านคนหนึ่งทราบเรื่อง เกิดความละโมบ จึงไปที่ลำธารและทำขวานหล่น แต่ด้วยความไม่ซื่อสัตย์ ทำให้เขาไม่ได้ขวานคืนแม้กระทั่งขวานของตนเอง *คติเตือนใจคือ* จงซื่อสัตย์และจงพอใจในสิ่งที่เป็นของตน ไม่โลภมาก

           4. คติธรรม ความขยัน จากนิทาน
*เรื่องขุมทรัพย์ในไร่องุ่น* : ที่ไร่องุ่นแห่งหนึ่ง มีพ่อผู้สูงอายุกับลูกชายจอมขี้เกียจ 3 คนอาศัยอยู่ ต่อมาพ่อล้มป่วยลงและก่อนที่แกใกล้จะสิ้นลมหายใจ ได้เรียกลูกชายทั้ง 3 มาสั่งเสียว่า อย่าขายที่ดิน เพราะพ่อได้ซ่อนขุมทรัพย์มหาศาลเอาไว้ ให้ขุดดินพรวนดิน ขุดหาให้ทั่วทุกตารางนิ้วของไร่ เมื่อพ่อได้สิ้นใจตายลงไปแล้ว ลูกชายทั้ง 3 ก็ลงมือและตั้งหน้าตั้งตาไถคราดพรวนดิน พวกเขาก็ไม่พบแม้แต่เศษเงินอย่างที่พ่อได้บอกไว้ หนึ่งปีผ่านไปไร่องุ่นที่พวกเข้าตั้งหน้าตั้งตาขุดพรวนดินเพื่อหาขุมทรัพย์นั้นกลับเกิดผล ออกดอกออกผลออกมา และเมื่อเป็นเช่นนั้นลูกชายทั้ง 3 จึงหันมาช่วยกันนำผลองุ่นเหล่านั้นออกขาย และพวกเขารู้ว่าขุมทรัพย์ที่พ่อพูดถึงนั้น หมายถึงการทำงานหนัก ขยันขันแข็ง เอาหยาดเหงื่อแรงงานเข้าแลกในที่ดินที่พ่อของพวกเขาได้ทิ้งไว้ให้มากกว่านั่นเอง
*คติเตือนใจคือ* ความขยันทำให้ทำงานสำเร็จ

           5. คติธรรม การประหยัด จากนิทาน *เรื่องคนขี้เหนียวกับทองคำ* : เศรษฐีคนหนึ่งเป็นคนขี้เหนียว เขามักนำทรัพย์สมบัติฝังดินไว้รอบบ้าน ไม่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยความกลัวคนขโมย ต่อมาเขาจึงได้นำทรัพย์สมบัติไปขายแล้วซื้อเป็นทองคำได้หนึ่งแท่ง นำมาฝังไว้หลังบ้าน เฝ้าดูทุกวัน คนใช้เห็นจึงแอบดูและขโมยไป เศรษฐีต้องเสียใจเพราะเสียทรัพย์ที่ตนเก็บเอาไว้ *คติเตือนใจคือ* การมีทรัพย์และประหยัดออมทรัพย์เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องรู้จักประมาณการใช้ทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ด้วย

           6. คติธรรม ความสุภาพ จากนิทาน
*เรื่องพิกุลทอง* : หญิงหม้ายคนหนึ่งมีลูกสาว 2 คน คนโตชื่อ มะลิ คนที่สองชื่อพิกุล หญิงหม้ายนั้นรักมะลิมาก เพราะมีรูปร่างหน้าตาและนิสัยเหมือนนาง ส่วนพิกุลเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสะสวย กิริยามารยาทดี พูดจาไพเราะและน้ำใจงาม พิกุลต้องทำงานหนักเนื่องจากความลำเอียงของมารดา แต่ด้วยความมีน้ำใจต่อคนอื่น ทำให้พิกุลได้รับพรจากรุกขเทวดาให้มีดอกพิกุลทองร่วงออกมาจากปากทุกครั้งที่พูด หญิงหม้ายมีความละโมบได้บีบคั้นให้พิกุลทองพูดเพื่อเอาทองคำ และให้มะลิไปขอพรรุกขเทวดา แต่มะลิมีนิสัยหยาบช้าจึงได้รับผลตรงกันข้ามกับพิกุล พิกุลถูกมารดาทำร้ายต้องหนีออกจากบ้าน ได้พบกับเจ้าชายรูปงามและครองคู่กันต่อมาอย่างมีความสุข *คติเตือนใจคือ* ความมีน้ำใจและความสุภาพเป็นเครื่องผูกมิตรต่อผู้อื่น


           7. คติธรรม ความสะอาด จากนิทาน
*เรื่องนางอุทัยเทวี* : อุทัยเทวีเป็นธิดาของรุกขเทวดาและนางนาค นางต้องพลัดมาอยู่บนโลกมนุษย์ จึงปกป้องตนเองด้วยการอาศัยอยู่ในร่างของคางคก ต่อมาตายายได้มาพบ นางจึงขอไปอาศัยอยู่ด้วย อุทัยเทวีช่วยเหลือตอบแทนตายายที่เลี้ยงดูตนเองโดยออกมาจากร่างคางคก และทำงานต่างๆ ในบ้าน จนบ้านเรือนสะอาดเรียบร้อย อุทัยเทวีเติบโตเป็นสาวสวยงาม เจ้าชายสุทราชกุมารได้พบกับนางก็หลงรัก และให้พระราชบิดามาสู่ขอ ตายายได้ขอให้สร้างสะพานทองจากพระราชวังมาถึงบ้าน ทำให้พระราชากริ้วมากและตรัสให้ตายายสร้างปราสาทหลังใหญ่ให้เสร็จภายใน 7 วัน เช่นกัน อุทัยเทวีได้เนรมิตปราสาทและเจ้าชายได้ตั้งจิตอธิษฐานขอสะพานทองจากเทวดา ในที่สุดทุกอย่างก็จบลงด้วยความสุข
*คติเตือนใจคือ* การประพฤติตนเป็นคนดี ขยัน กตัญญูส่งผลให้ได้รับผลบุญที่ดี

           8. คติธรรม ความสามัคคี จากนิทาน *เรื่องนกกระจาบ* : นกกระจาบฝูงหนึ่งถูกนายพรานใช้ตาข่ายจับไป หัวหน้านกกระจาบและนกที่เหลือได้หาวิธีเพื่อให้รอดพ้นจากตาข่าย เมื่อฝูงนกถูกนายพรานดักจับ ได้ใช้กลวิธีความสามัคคี ทำให้รอดพ้นจากตาข่ายนายพรานได้อย่างปลอดภัย *คติเตือนใจคือ* คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับบ้านได้

           9. คติธรรม ความพอประมาณ จากนิทาน *เรื่องหมากับเงา* : หมาหิวโซตัวหนึ่งแย่งก้อนเนื้อชิ้นหนึ่งมาจากหมาซึ่งตัวเล็กกว่า มันคาบก้อนเนื้อนั้นมาถึงลำธารแห่งหนึ่ง ขณะที่มันเดินข้ามสะพานมองลงไปในน้ำก็เห็นเงาของหมาตัวใหญ่ตัวหนึ่งคาบก้อนเนื้อขนาดใหญ่ไว้ในปาก จึงเกิดความโลภคายก้อนเนื้อและกระโดดลงไปในน้ำหมายจะแย่งเนื้อจากหมาที่เห็นในน้ำซึ่งใหญ่กว่า ผลที่สุดหมาตัวนี้ก็ต้องอดโซต่อไป *คติเตือนใจคือ* จงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ โลภมากลาภหาย

           10. คติธรรม ความมีเหตุผล จากนิทาน
*เรื่องสังข์ทอง* : รจนาเป็นธิดาองค์สุดท้องในจำนวนพระธิดาเจ็ดองค์ของท้าวสามล พระธิดาหกองค์ได้เลือกคู่ครองที่เป็นเจ้าชายเหมาะสมกับแต่ละคนแล้ว แต่รจนากลับมองเห็นรูปทองภายในของเจ้าเงาะรูปชั่วตัวดำ จึงเลือกเจ้าเงาะด้วยเหุตผลเป็นคนดี ท้าวสามลกริ้วมากจึงขับไล่ให้นางรจนาไปอยู่กระท่อมปลายนากับเจ้าเงาะ พระอินทร์ได้แปลงกายมาประลองตีคลีเอาเมืองกับท้าวสามล เขยทั้งหกไม่สามารถสู้รบกับพระอินทร์ เจ้าเงาะต้องถูกเกณฑ์ไปและมีชัยชนะ ทุกคนจึงได้ทราบความจริงว่า เงาะรูปชั่วตัวดำคือเจ้าชายสังข์ทอง *คติเตือนใจคือ* อย่ามองผู้อื่นหรือตัดสินผู้อื่นแต่เพียงภายนอก จงตริตรองด้วยเหตุผล


           11. คติธรรม มีภูมิคุ้มกันความเสี่ยง จากนิทาน
*เรื่องมดง่ามกับจักจั่น* : ในฤดูฝน จักจั่นผอมโซเพราะเกียจคร้านตัวหนึ่งมาขออาหารมดง่าม ซึ่งขยันขันแข็งเก็บสะสมอาหารที่หาไว้ในช่วงฤดูร้อน จักจั่นตัวนั้นนอกจากไม่ได้อาหารจากมดง่ามแล้วยังถูกตำหนิว่ากล่าวให้อับอายอีกด้วย *คติเตือนใจคือ* ความขยันหมั่นเพียร ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันความเสี่ยงในการดำเนินชีวิต


           ทั้งนี้ ตามแผนงานการอบรมสั่งสอนสร้างเสริมคุณธรรมด้วยนิทานดังกล่าว มีเป้าหมายของงานจะต้องได้นิทานรวม 80 เล่ม รวมถึงนิทานท้องถิ่นและนิทานที่เกิดใหม่ ซึ่งจะต้องคัดเลือกเพิ่มเติมอีกจากการระดมผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักพิมพ์ นักอ่าน นักเขียน นักวิชาการ และครูอาจารย์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา

           การรวม 80 เรื่องใน 1 เล่มนี้ก็เพื่อความสะดวกในการจัดส่งไปยังห้องสมุดทั่วประเทศ และยังจะนำเสนอในเว็บ www.moe.go.th และ www.sema.go.th เพื่อให้นักเรียน ครูอาจารย์ และผู้ปกครองได้ Download และได้จัดทำเป็น e-book เพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้ผ่านโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย
       ใครที่ยังไม่ได้อ่านก็ไปอ่านดูเสียนะ....

 ขอเรียนเชิญผู้สนใจค้นหาเก็บไว้เพื่อใช้ประโยชน์ตามต้องการ


อ่านความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1 (0)
ก้อนหินยิ้ม วันที่ : 16/03/2009 เวลา : 12.10 น.
http://www.oknation.net/blog/konhinsmile

ขอบคุณเจ้าค่ะ
น่าอ่านทั้งนั้นเลยนะคะ

แสดงความคิดเห็น


ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
   ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ
- การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้
- การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น
สามารถทำได้
- เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน
- การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน
จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION



กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร
3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น
4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน
5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก
คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
   

กลับไปหน้าที่แล้วกลับด้านบน